บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์ คำถาม - คำตอบสถานที่บัญญัติเป็นต้นในสังฆาทิเสสกัณฑ์ [๗] พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้พยายามทำน้ำอสุจิให้เคลื่อน ณ ที่ไหน ทรงปรารภ ใคร เพราะเรื่องอะไร ในสุกกวิสัฏฐิสิกขาบทที่ ๑ นั้น มีพระบัญญัติ พระอนุบัญญัติ อนุปปันนบัญญัติ สัพพัตถบัญญัติ ปเทสบัญญัติ สาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติ เอกโตบัญญัติ อุภโตบัญญัติอยู่หรือ บรรดาปาติโมกขุทเทส ๕ อุทเทส สุกกวิสัฏฐิสิกขาบทนั้นจัดเข้าในอุทเทสไหน นับเนื่องในอุทเทสไหน มาสู่อุทเทสโดยอุทเทสไหน บรรดาวิบัติ ๔ อย่าง เป็นวิบัติอย่างไหน บรรดากองอาบัติ ๗ กอง เป็นกองอาบัติไหน บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร บรรดาอธิกรณ์ ๔ อย่าง เป็นอธิกรณ์อย่างไหน บรรดาสมถะ ๗ อย่าง ระงับด้วยสมถะเท่าไร {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๙}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
ในสุกกวิสัฏฐิสิกขาบทที่ ๑ นั้น อะไรเป็นพระวินัย อะไรเป็นอภิวินัย อะไรเป็น พระปาติโมกข์ อะไรเป็นอธิปาติโมกข์ อะไรเป็นวิบัติ อะไรเป็นสมบัติ อะไรเป็นข้อ ปฏิบัติ พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้พยายามทำน้ำอสุจิให้เคลื่อน โดยทรงอาศัยอำนาจประโยชน์เท่าไร ใครศึกษาอยู่ ใครศึกษาสิกขาเรียบร้อยแล้ว สิกขาบทนี้ตั้งอยู่ในใคร ใครทรงเอาไว้ เป็นถ้อยคำของใคร ใครนำมา๑. สุกกวิสัฏฐิสิกขาบท [๘] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรง เห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้พยายามทำน้ำอสุจิให้เคลื่อน ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภท่านพระเสยยสกะ ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ท่านพระเสยยสกะพยายามใช้มือทำน้ำอสุจิให้เคลื่อน ถาม : ในสุกกวิสัฏฐิสิกขาบทนั้น มีพระบัญญัติ พระอนุบัญญัติ อนุปปันน บัญญัติอยู่หรือ ตอบ : ในสุกกวิสัฏฐิสิกขาบทนั้น มี ๑ พระบัญญัติ ๑ พระอนุบัญญัติ ไม่ มีอนุปปันนบัญญัติ ถาม : มีสัพพัตถบัญญัติ ปเทสบัญญัติอยู่หรือ ตอบ : มีสัพพัตถบัญญัติ ถาม : มีสาธารณบัญญัติ อสาธารณบัญญัติอยู่หรือ ตอบ : มีอสาธารณบัญญัติ ถาม : มีเอกโตบัญญัติ อุภโตบัญญัติอยู่หรือ ตอบ : มีเอกโตบัญญัติ ถาม : บรรดาปาติโมกขุทเทส ๕ อุทเทส สุกกวิสัฏฐิสิกขาบทนั้นจัดเข้าใน อุทเทสไหน นับเนื่องในอุทเทสไหน {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๑๐}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
ตอบ : จัดเข้าในนิทานุทเทส นับเนื่องในนิทานุทเทส ถาม : มาสู่อุทเทสโดยอุทเทสไหน ตอบ : มาสู่อุทเทสโดยอุทเทสที่ ๓ ถาม : บรรดาวิบัติ ๔ อย่าง เป็นวิบัติอย่างไหน ตอบ : เป็นสีลวิบัติ ถาม : บรรดากองอาบัติ ๗ กอง เป็นกองอาบัติไหน ตอบ : เป็นกองอาบัติสังฆาทิเสส ถาม : บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐานเท่าไร ตอบ : เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน คือ เกิดทางกายกับจิต มิใช่เกิดทางวาจา ถาม : บรรดาอธิกรณ์ ๔ อย่าง เป็นอธิกรณ์อย่างไหน ตอบ : เป็นอาปัตตาธิกรณ์ ถาม : บรรดาสมถะ ๗ อย่าง ระงับด้วยสมถะเท่าไร ตอบ : ระงับด้วยสมถะ ๒ อย่าง คือ (๑) สัมมุขาวินัย (๒) ปฏิญญาตกรณะ ถาม : ในสุกกวิสัฏฐิสิกขาบทนั้น อะไรเป็นพระวินัย อะไรเป็นอภิวินัย ตอบ : พระบัญญัติเป็นพระวินัย การจำแนกเป็นอภิวินัย ถาม : ในสุกกวิสัฏฐิสิกขาบทนั้น อะไรเป็นพระปาติโมกข์ อะไรเป็น อธิปาติโมกข์ ตอบ : พระบัญญัติเป็นพระปาติโมกข์ การจำแนกเป็นอธิปาติโมกข์ ถาม : อะไรเป็นวิบัติ ตอบ : ความไม่สำรวมเป็นวิบัติ ถาม : อะไรเป็นสมบัติ ตอบ : ความสำรวมเป็นสมบัติ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๑๑}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
ถาม : อะไรเป็นข้อปฏิบัติ ตอบ : การที่ภิกษุสมาทานอาปาณโกฏิกศีลตลอดชีวิตว่า เราจะไม่ทำกรรม อย่างนี้อีก แล้วศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย เป็นข้อปฏิบัติ ถาม : พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้พยายามทำน้ำอสุจิ ให้เคลื่อน โดยทรงอาศัยอำนาจประโยชน์เท่าไร ตอบ : พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้พยายามทำน้ำอสุจิ ให้เคลื่อน โดยทรงอาศัยอำนาจประโยชน์ ๑๐ ประการ คือ ๑. เพื่อความรับว่าดีแห่งสงฆ์ ๒. เพื่อความผาสุกแห่งสงฆ์ ๓. เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก ๔. เพื่อความอยู่ผาสุกแห่งเหล่าภิกษุผู้มีศีลดีงาม ๕. เพื่อปิดกั้นอาสวะทั้งหลายอันจะบังเกิดในปัจจุบัน ๖. เพื่อกำจัดอาสวะทั้งหลายอันจะบังเกิดในอนาคต ๗. เพื่อความเลื่อมใสของคนที่ยังไม่เลื่อมใส ๘. เพื่อความเลื่อมใสยิ่งขึ้นไปของคนที่เลื่อมใสแล้ว ๙. เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม ๑๐. เพื่อเอื้อเฟื้อพระวินัย ถาม : ใครศึกษาอยู่ ตอบ : พระเสขะและกัลยาณปุถุชนศึกษาอยู่ ถาม : ใครศึกษาสิกขาเรียบร้อยแล้ว ตอบ : พระอรหันต์เป็นผู้ศึกษาสิกขาเรียบร้อยแล้ว ถาม : สิกขาบทนี้ตั้งอยู่ในใคร ตอบ : ตั้งอยู่ในสิกขากามบุคคล ถาม : ใครทรงเอาไว้ ตอบ : พระเถระทั้งหลายผู้ทรงจำสุกกวิสัฏฐิสิกขาบทที่ ๑ ได้ทรงเอาไว้ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๑๒}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
ถาม : เป็นถ้อยคำของใคร ตอบ : เป็นพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ถาม : ใครนำมา ตอบ : พระเถระทั้งหลายนำสืบๆ กันมารายนามพระเถระผู้ทรงจำพระวินัยสืบกันมา พระเถระเหล่านี้ คือ พระอุบาลี พระทาสกะ พระโสณกะ พระสิคควะ และพระโมคคัลลีบุตร รวมเป็น ๕ รูป เป็นผู้นำพระวินัยสืบๆ กันมาในชมพูทวีปอันมีสิริ จากนั้น พระเถระผู้ประเสริฐมีปัญญามากเหล่านี้ คือ พระมหินทะ พระอิฏฏิยะ พระอุตติยะ พระสัมพละ และพระภัททบัณฑิต เดินทางจากชมพูทวีปมาที่เกาะสิงหลนี้ ท่านเหล่านั้นสอนพระวินัยปิฎกที่เกาะตามพปัณณิ สอนนิกาย ๕ และปกรณ์ ๗ จากนั้นพระอริฏฐะผู้มีปัญญา พระติสสทัตตบัณฑิต พระกาฬสุมนะ ผู้เชี่ยวชาญ พระทีฆเถระ และพระทีฆสุมนบัณฑิต ต่อมา พระกาฬสุมนะ พระนาคเถระ พระพุทธรักขิตะ พระติสสเถระผู้มีปัญญา และพระเทวเถระผู้เป็นบัณฑิต ต่อมา พระสุมนะผู้มีปัญญาและเชี่ยวชาญในพระวินัย พระจูฬนาคะเป็นพหูสูต ดุจช้างซับมัน พระธัมมปาลิตะ เป็นผู้อันสาธุชนในโรหนชนบทพากันบูชาเป็นอย่างดี ศิษย์ของพระธัมมปาลิตะนั้น มีปัญญามากชื่อว่าเขมะ ทรงจำพระไตรปิฎกได้รุ่งเรืองอยู่ในเกาะด้วยปัญญา เหมือนดวงจันทร์รุ่งเรืองอยู่ พระอุปติสสะผู้มีปัญญา พระปุสสเทวะผู้เป็นมหาธรรมกถึก ต่อมา พระสุมนะผู้มีปัญญา พระมหาปทุมะเป็นพหูสูต พระมหาสีวะผู้เป็นมหาธรรมกถึก ฉลาดในพระปิฎกทั้งหมด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๑๓}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
ต่อมา พระอุบาลีผู้มีปัญญา เชี่ยวชาญในพระวินัย พระมหานาคะผู้มีปัญญามาก ฉลาดในวงศ์พระสัทธรรม ต่อมา พระอภยะผู้มีปัญญา ฉลาดในพระปิฎกทั้งหมด พระติสสเถระผู้มีปัญญาเชี่ยวชาญในพระวินัย พระสุมนะมีปัญญามาก ผู้เป็นศิษย์ของพระติสสเถระนั้น เป็นพหูสูต รักษาพระศาสนาต่อกันมาอยู่ในชมพูทวีป พระจูฬาภยะผู้มีปัญญาและเชี่ยวชาญในพระวินัย พระติสสเถระผู้มีปัญญาฉลาดในวงศ์พระสัทธรรม พระจูฬเทวะผู้มีปัญญาและเชี่ยวชาญในพระวินัยและพระสิวเถระ ผู้มีปัญญา ฉลาดในพระวินัยทั้งหมด พระเถระผู้ประเสริฐมีปัญญามากเหล่านี้ รู้พระวินัย ฉลาดในมรรค ได้ประกาศพระวินัยปิฎกไว้ในเกาะตามพปัณณิ๒. กายสังสัคคสิกขาบท [๙] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรง เห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้ถูกต้องกายกับมาตุคาม ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภท่านพระอุทายี ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายีถูกต้องกายกับมาตุคาม ในกายสังสัคคสิกขาบทนั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน คือ เกิดทางกายกับจิต มิใช่เกิดทางวาจา ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๑๔}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
๓. ทุฏฐุลลวาจาสิกขาบท [๑๐] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้พูดเกี้ยวมาตุคามด้วยวาจาชั่วหยาบ ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภท่านพระอุทายี ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายีพูดเกี้ยวมาตุคามด้วยวาจาชั่วหยาบ ในทุฏฐุลลวาจาสิกขาบทนั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓ สมุฏฐาน คือ (๑) เกิดทางกายกับจิต มิใช่เกิด ทางวาจา (๒) เกิดทางวาจากับจิต มิใช่เกิดทางกาย (๓) เกิดทางกายวาจากับจิต ฯลฯ๔. อัตตกามปาริจริยสิกขาบท [๑๑] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรง เห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้กล่าวสรรเสริญการบำเรอความใคร่ของตนต่อหน้า มาตุคาม ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภท่านพระอุทายี ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายีกล่าวสรรเสริญการบำเรอความใคร่ของตน ต่อหน้ามาตุคาม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๑๕}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
ในอัตตกามปาริจริยสิกขาบทนั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓ สมุฏฐาน ฯลฯ๕. สัญจริตตสิกขาบท [๑๒] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้ทำหน้าที่ชักสื่อ ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภท่านพระอุทายี ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ท่านพระอุทายีทำหน้าที่ชักสื่อ ในสัญจริตตสิกขาบทนั้น มี ๑ พระบัญญัติ ๑ พระอนุบัญญัติ บรรดาสมุฏฐาน แห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ สมุฏฐาน คือ (๑) เกิดทางกาย มิใช่ เกิดทางวาจา มิใช่เกิดทางจิต (๒) เกิดทางวาจา มิใช่เกิดทางกาย มิใช่เกิดทางจิต (๓) เกิดทางกายกับวาจา มิใช่เกิดทางจิต (๔) เกิดทางกายกับจิต มิใช่เกิดทางวาจา (๕) เกิดทางวาจากับจิต มิใช่เกิดทางกาย (๖) เกิดทางกายวาจากับจิต ฯลฯ๖. กุฏิการสิกขาบท [๑๓] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรง เห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้สร้างกุฎีด้วยเครื่องอุปกรณ์ที่ขอมาเอง ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ เมืองอาฬวี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภพวกภิกษุชาวเมืองอาฬวี ถาม : เพราะเรื่องอะไร {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๑๖}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
ตอบ : เพราะเรื่องที่พวกภิกษุชาวเมืองอาฬวีสร้างกุฎีด้วยเครื่องอุปกรณ์ที่ขอ มาเอง ในกุฏิการสิกขาบทนั้น มี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ สมุฏฐาน ฯลฯ๗. วิหารการสิกขาบท [๑๔] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรง เห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้ให้สร้างวิหารใหญ่ ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงโกสัมพี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภท่านพระฉันนะ ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ท่านพระฉันนะแผ้วถางพื้นที่สร้างวิหาร สั่งให้ตัดไม้รุกขเจดีย์ ต้นหนึ่ง ในวิหารการสิกขาบทนั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๖ สมุฏฐาน ฯลฯ๘. ปฐมทุฏฐโทสสิกขาบท [๑๕] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรงเห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้ใส่ความภิกษุด้วยอาบัติปาราชิกไม่มีมูล ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงราชคฤห์ ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภพระเมตติยะและพระภุมมชกะ ถาม : เพราะเรื่องอะไร {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๑๗}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
ตอบ : เพราะเรื่องที่พระเมตติยะและพระภุมมชกะใส่ความท่านพระทัพพมัลล บุตรด้วยอาบัติปาราชิกไม่มีมูล ในปฐมทุฏฐโทสสิกขาบทนั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓ สมุฏฐาน ฯลฯ๙. ทุติยทุฏฐโทสสิกขาบท [๑๖] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรง เห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้อ้างเอาบางส่วนแห่งอธิกรณ์เรื่องอื่นเป็นเลศใส่ ความภิกษุด้วยอาบัติปาราชิกไม่มีมูล ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงราชคฤห์ ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภพระเมตติยะและพระภุมมชกะ ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่พระเมตติยะและพระภุมมชกะอ้างเอาบางส่วนแห่งอธิกรณ์ เรื่องอื่นเป็นเลศใส่ความท่านพระทัพพมัลลบุตรด้วยอาบัติปาราชิกไม่มีมูล ในทุติยทุฏฐโทสสิกขาบทนั้น มี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๓ สมุฏฐาน ฯลฯ๑๐. สังฆเภทสิกขาบท [๑๗] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรง เห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้ทำสงฆ์ให้แตกกัน ไม่สละกรรมจนกระทั่งสงฆ์ สวดสมนุภาสน์ครบ ๓ ครั้ง ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงราชคฤห์ ถาม : ทรงปรารภใคร {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๑๘}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
ตอบ : ทรงปรารภพระเทวทัต ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่พระเทวทัตเพียรพยายามเพื่อทำลายสงฆ์ผู้พร้อมเพรียงกัน ในสังฆเภทสิกขาบทนั้น มี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน คือ เกิดทางกายวาจากับจิต ฯลฯ๑๑. สังฆเภทานุวัตตกสิกขาบท [๑๘] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรง เห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุที่ประพฤติตามกล่าวสนับสนุนภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ไม่สละกรรมจนกระทั่งสงฆ์สวดสมนุภาสน์ครบ ๓ ครั้ง ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงราชคฤห์ ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภภิกษุหลายรูป ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ภิกษุหลายรูปประพฤติตามสนับสนุนพระเทวทัตผู้พยายาม ทำลายสงฆ์ ในสังฆเภทานุวัตตกสิกขาบทนั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน คือ เกิดทางกายวาจากับจิต ฯลฯ๑๒. ทุพพจสิกขาบท [๑๙] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรง เห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุเป็นคนว่ายาก ไม่สละกรรมจนกระทั่งสงฆ์สวด สมนุภาสน์ครบ ๓ ครั้ง ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงโกสัมพี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๑๙}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๒. สังฆาทิเสสกัณฑ์
ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภท่านพระฉันนะ ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่ท่านพระฉันนะอันภิกษุทั้งหลายว่ากล่าวตักเตือนโดยชอบ ธรรม กลับทำตนให้เป็นคนที่ว่ากล่าวตักเตือนไม่ได้ ในทุพพจสิกขาบทนั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน คือ เกิดทางกายวาจากับจิต ฯลฯ๑๓. กุลทูสกสิกขาบท [๒๐] ถาม : พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงรู้ ทรง เห็น ทรงบัญญัติสังฆาทิเสสแก่ภิกษุผู้ประทุษร้ายตระกูล ไม่สละกรรมจนกระทั่งสงฆ์ สวดสมนุภาสน์ครบ ๓ ครั้ง ณ ที่ไหน ตอบ : ทรงบัญญัติ ณ กรุงสาวัตถี ถาม : ทรงปรารภใคร ตอบ : ทรงปรารภพระอัสสชิและพระปุนัพพสุกะ ถาม : เพราะเรื่องอะไร ตอบ : เพราะเรื่องที่พระอัสสชิและพระปุนัพพสุกะถูกสงฆ์ลงปัพพาชนียกรรม แล้วกลับกล่าวหาว่า พวกภิกษุลำเอียงเพราะชอบ ลำเอียงเพราะชัง ลำเอียงเพราะหลง ลำเอียงเพราะกลัว ในกุลทูสกสิกขาบทนั้นมี ๑ พระบัญญัติ บรรดาสมุฏฐานแห่งอาบัติ ๖ สมุฏฐาน เกิดด้วยสมุฏฐาน ๑ สมุฏฐาน คือ เกิดทางกายวาจากับจิต ฯลฯสังฆาทิเสส ๑๓ สิกขาบท จบ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๐}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุวิภังค์]
๑. กัตถปัญญัตติวาร ๓. อนิยตกัณฑ์
รวมสิกขาบทที่มีในสังฆาทิเสสกัณฑ์ ๑. สุกกวิสัฏฐิสิกขาบท ว่าด้วยการจงใจทำน้ำอสุจิให้เคลื่อน ๒. กายสังสัคคสิกขาบท ว่าด้วยการถูกต้องกายกับมาตุคาม ๓. ทุฏฐุลลวาจาสิกขาบท ว่าด้วยการพูดเกี้ยวมาตุคาม ๔. อัตตกามปาริจริยสิกขาบท ว่าด้วยการให้บำเรอความใคร่ของตน ๕. สัญจริตตสิกขาบท ว่าด้วยการชักสื่อ ๖. กุฏิการสิกขาบท ว่าด้วยการก่อสร้างกุฎี ๗. วิหารการสิกขาบท ว่าด้วยการก่อสร้างวิหาร ๘. ปฐมทุฏฐโทสสิกขาบท ว่าด้วยภิกษุขัดเคืองมีโทสะสิกขาบทที่ ๑ ๙. ทุติยทุฏฐโทสสิกขาบท ว่าด้วยภิกษุขัดเคืองมีโทสะสิกขาบทที่ ๒ ๑๐. สังฆเภทสิกขาบท ว่าด้วยการทำสงฆ์ให้แตกกัน ๑๑. สังฆเภทานุวัตตกสิกขาบท ว่าด้วยภิกษุประพฤติตามกล่าวสนับสนุน ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ๑๒. ทุพพจสิกขาบท ว่าด้วยภิกษุเป็นคนว่ายาก ๑๓. กุลทูสกสิกขาบท ว่าด้วยภิกษุผู้ประทุษร้ายตระกูลเนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๘ หน้าที่ ๙-๒๑. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=8&siri=2 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3]. อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=8&A=150&Z=376 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=8&i=8 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=8&item=8&items=15 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=8&item=8&items=15 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๘ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu8 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-pvr1.1/en/brahmali#pli-tv-pvr1.1:26.0 https://suttacentral.net/pli-tv-pvr1.1/en/horner-brahmali#BD.6.8
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]