ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
             [๒๐๒] จริงอยู่ พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว พระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันต์ตรัสแล้ว เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อบุคคลหนึ่งแล่นไปท่องเที่ยวไปตลอดกัป ร่างกระดูก หมู่
กระดูก กองกระดูก พึงเป็นกองใหญ่ เหมือนภูเขาเวปุลลบรรพตนี้ ถ้าว่า
ใครๆ จะพึงรวบรวมไปกองไว้ และถ้าว่าส่วนแห่งกระดูกอันใครๆ นำไปแล้ว
จะไม่พึงฉิบหายไป ฯ
             พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความนี้แล้ว ในพระสูตรนั้น พระผู้มีพระภาค
ตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
                          พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ ตรัสไว้ดังนี้ว่า
                          กองแห่งกระดูกของบุคคลคนหนึ่ง พึงเป็นกองเสมอด้วยภูเขา
                          โดยกัปหนึ่ง ก็ภูเขาใหญ่ชื่อเวปุลลบรรพตนี้นั้นแล อันพระ
                          สัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสบอกแล้ว สูงยิ่งกว่าภูเขาคิชฌกูฏ
                          อยู่ใกล้พระนครราชคฤห์ของชาวมคธ เมื่อใด บุคคลย่อม
                          พิจารณาเห็นอริยสัจ คือ ทุกข์ ๑ ธรรมเป็นเหตุเกิดแห่ง
                          ทุกข์ ๑ ธรรมเป็นที่ก้าวล่วงแห่งทุกข์ ๑ อริยมรรคมีองค์ ๘
                          อันให้ถึงความสงบแห่งทุกข์ ๑ ด้วยปัญญาอันชอบ เมื่อนั้น
                          บุคคลนั้นท่องเที่ยวไปแล้ว ๗ ครั้งเป็นอย่างยิ่ง เป็นผู้กระทำ
                          ซึ่งที่สุดแห่งทุกข์ได้ เพราะสังโยชน์ทั้งปวงสิ้นไป ฯ
             เนื้อความแม้นี้พระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว
ฉะนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๔
๕. สัมปชานมุสาวาทสูตร

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ บรรทัดที่ ๔๘๑๐-๔๘๓๑ หน้าที่ ๒๑๐-๒๑๑. https://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=25&A=4810&Z=4831&pagebreak=0              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง]              อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=25&siri=139              ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=202              ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- [202-203] https://84000.org/tipitaka/pali/pali_item_s.php?book=25&item=202&items=2              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=27&A=2045              The Pali Tipitaka in Roman :- [202-203] https://84000.org/tipitaka/pali/roman_item_s.php?book=25&item=202&items=2              The Pali Atthakatha in Roman :- https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=27&A=2045              สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ https://84000.org/tipitaka/read/?index_25              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://accesstoinsight.org/tipitaka/kn/iti/iti.1.001-027.than.html#iti-024 https://accesstoinsight.org/tipitaka/kn/iti/iti.1.024-027.irel.html#iti-024 https://suttacentral.net/iti24/en/ireland https://suttacentral.net/iti24/en/sujato

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้า
ในกรณี :- 
   บรรทัดแรกของแต่ละหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :