บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
อวิสสัชชิยวัตถุ ว่าด้วยของที่ไม่พึงสละ [๓๒๑] สมัยนั้น ภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ประจำในอาวาสใกล้บ้านแห่งหนึ่ง ไม่ห่าง จากกรุงสาวัตถี จัดแจงเสนาสนะแก่พวกภิกษุอาคันตุกะและภิกษุผู้เตรียมจะออกเดินทาง ได้รับความลำบาก ครั้งนั้น ภิกษุเหล่านั้นได้ปรึกษากันดังนี้ว่า เวลานี้พวกเราจัด แจงเสนาสนะแก่พวกภิกษุอาคันตุกะและภิกษุผู้เตรียมจะออกเดินทางได้รับความลำบาก ท่านทั้งหลาย เอาเถอะ พวกเราจะมอบเสนาสนะของสงฆ์ทั้งหมด แก่ภิกษุรูปหนึ่ง จะใช้สอยเสนาสนะของเธอ ภิกษุเหล่านั้นได้ให้เสนาสนะของสงฆ์ทั้งหมดแก่ภิกษุรูป หนึ่ง ภิกษุอาคันตุกะทั้งหลายได้กล่าวกับภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ประจำในอาวาสเหล่านั้น ดังนี้ว่า ท่านทั้งหลาย พวกท่านโปรดจัดเสนาสนะให้พวกกระผมเถิด ภิกษุผู้อยู่ประจำในอาวาสทั้งหลายตอบว่า เสนาสนะของสงฆ์ไม่มีหรอกท่าน เสนาสนะทั้งหมด พวกเรามอบให้ภิกษุรูปหนึ่งไปแล้ว ภิกษุอาคันตุกะทั้งหลายถามว่า พวกท่านมอบเสนาสนะของสงฆ์ให้ภิกษุรูป หนึ่งไปแล้วหรือ ภิกษุผู้อยู่ประจำในอาวาสทั้งหลายตอบว่า ใช่แล้ว ท่านทั้งหลาย {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๗ หน้า : ๑๔๑}
พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๖. เสนาสนขันธกะ]
๓. ตติยภาณวาร
บรรดาภิกษุผู้มักน้อยสันโดษ ฯลฯ ตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุ ทั้งหลายจึงสละเสนาสนะที่เป็นของสงฆ์เล่า ครั้งนั้นแล ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่า พวก ภิกษุสละเสนาสนะของสงฆ์ จริงหรือ ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า ภิกษุทั้งหลาย ไฉนโมฆบุรุษเหล่านั้น จึงสละเสนาสนะของสงฆ์เล่า ภิกษุทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้ไม่ได้ทำคนที่ยังไม่เลื่อมใส ให้เลื่อมใส ฯลฯ ครั้นทรงตำหนิ ฯลฯ ทรงแสดงธรรมีกถารับสั่งกับภิกษุทั้งหลาย ว่า ภิกษุทั้งหลาย ของที่สละไม่ได้ ๕ หมวด สงฆ์ คณะหรือบุคคลไม่พึงสละ แม้สละ แล้วก็ไม่เป็นอันสละ รูปใดสละ ต้องอาบัติถุลลัจจัย ของที่ไม่ควรสละ ๕ หมวด คืออะไรบ้าง คือ ๑. อาราม พื้นที่อาราม นี้เป็นของที่ไม่ควรสละอันดับที่ ๑ สงฆ์ คณะ หรือบุคคลไม่พึงสละ แม้สละแล้วก็ไม่เป็นอันสละ รูปใดสละ ต้อง อาบัติถุลลัจจัย ๒. วิหาร พื้นที่วิหาร นี้เป็นของที่ไม่ควรสละอันดับที่ ๒ สงฆ์ คณะ หรือบุคคลไม่พึงสละ แม้สละแล้วก็ไม่เป็นอันสละ รูปใดสละ ต้อง อาบัติถุลลัจจัย ๓. เตียง ตั่ง ฟูก หมอน นี้เป็นของที่ไม่ควรสละอันดับที่ ๓ สงฆ์ คณะ หรือบุคคล ไม่พึงสละ แม้สละแล้วก็ไม่เป็นอันสละ รูปใดสละ ต้อง อาบัติถุลลัจจัย ๔. หม้อโลหะ อ่างโลหะ กระถางโลหะ กระทะโลหะ มีด ขวาน ผึ่ง จอบ สว่าน นี้เป็นของที่ไม่ควรสละอันดับที่ ๔ สงฆ์ คณะหรือ บุคคลไม่พึงสละ แม้สละแล้วก็ไม่เป็นอันสละ รูปใดสละ ต้องอาบัติ ถุลลัจจัย ๕. เถาวัลย์ ไม้ไผ่ หญ้าปล้อง หญ้ามุงกระต่าย หญ้าสามัญ ดิน เครื่องไม้และ เครื่องดินนี้เป็นของที่ไม่ควรสละอันดับที่ ๕ สงฆ์ คณะ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๗ หน้า : ๑๔๒}
พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๖. เสนาสนขันธกะ]
๓. ตติยภาณวาร
หรือบุคคลไม่พึงสละ แม้สละแล้วก็ไม่เป็นอันสละ รูปใดสละ ต้อง อาบัติถุลลัจจัย ภิกษุทั้งหลาย ของที่สละไม่ได้ ๕ หมวดเหล่านี้แล สงฆ์ คณะหรือบุคคล ไม่พึงสละ แม้สละแล้วก็ไม่เป็นอันสละ รูปใดสละ ต้องอาบัติถุลลัจจัยอเวภังคิยวัตถุ ว่าด้วยของที่ไม่พึงแบ่ง เรื่องพระอัสสชิและพระปุนัพพสุกะ [๓๒๒] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ กรุงสาวัตถี ตามพระอัธยาศัย แล้ว ได้เสด็จจาริกไปกีฏาคิรีชนบท พร้อมกับภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ ๕๐๐ รูป รวมทั้งพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ พระอัสสชิและพระปุนัพพสุกะทราบข่าวแล้วปรึกษากันว่า พระผู้มีพระภาค กำลังเสด็จมากีฏาคิรีชนบท พร้อมกับภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ ๕๐๐ รูป รวมทั้ง พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ พวกเราจะแบ่งเสนาสนะของสงฆ์ทั้งหมด พระ สารีบุตรและพระโมคคัลลานะมีความปรารถนาชั่ว ตกอยู่ในอำนาจความปรารถนาชั่ว พวกเราจะไม่จัดเสนาสนะให้ท่านทั้ง ๒ นั้น พระอัสสชิและพระปุนัพพสุกะนั้น จึง แบ่งเสนาสนะของสงฆ์ทั้งหมด ต่อมา พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปโดยลำดับ จนถึงกีฏาคิรีชนบทแล้ว ครั้น แล้วได้รับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงไปหาภิกษุอัสสชิและภิกษุ ปุนัพพสุกะแล้วกล่าวอย่างนี้ว่า พระผู้มีพระภาคเสด็จมาพร้อมกับภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ประมาณ ๕๐๐ รูป รวมทั้งพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ขอให้ท่านทั้งหลายจง จัดเสนาสนะถวายพระผู้มีพระภาค ภิกษุสงฆ์ รวมทั้งพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ภิกษุเหล่านั้นรับสนองพระพุทธดำรัสแล้วเข้าไปหาพระอัสสชิและพระปุนัพพสุกะ จนถึงที่อยู่ ครั้นถึงแล้วได้กล่าวกับพระอัสสชิและพระปุนัพพสุกะดังนี้ว่า พระผู้มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๗ หน้า : ๑๔๓}
พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๖. เสนาสนขันธกะ]
๓. ตติยภาณวาร
พระภาคเสด็จมาพร้อมกับภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ ๕๐๐ รูป รวมทั้งพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ขอให้ท่านทั้งหลายจงจัดเสนาสนะถวายพระผู้มีพระภาค ภิกษุสงฆ์รวมทั้งพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ พระอัสสชิและพระปุนัพพสุกะตอบว่า ท่านทั้งหลาย เสนาสนะของสงฆ์ไม่มี พวกเราแบ่งกันหมดแล้ว พระผู้มีพระภาคเสด็จมาดีแล้ว โปรดประทับในวิหารที่ทรง พระประสงค์เถิด พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะผู้มีความปรารถนาชั่ว ตกอยู่ใน อำนาจความปรารถนาชั่ว พวกเราไม่จัดเสนาสนะให้ท่านทั้ง ๒ นั้น ภิกษุทั้งหลายถามว่า พวกท่านแบ่งเสนาสนะของสงฆ์หรือ พระอัสสชิและพระปุนัพพสุกะตอบว่า ใช่แล้ว ท่านทั้งหลาย บรรดาภิกษุผู้มักน้อยสันโดษ ฯลฯ ตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉน พระอัสสชิและพระปุนัพพสุกะจึงแบ่งเสนาสนะของสงฆ์เล่า ลำดับนั้นแล ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่าพระ อัสสชิและภิกษุปุนัพพสุกะแบ่งเสนาสนะของสงฆ์จริงหรือ ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า ภิกษุทั้งหลาย ไฉนโมฆบุรุษเหล่านั้นจึง แบ่งเสนาสนะของสงฆ์เล่า ภิกษุทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้ไม่ได้ทำคนที่ยังไม่เลื่อมใสให้ เลื่อมใส ฯลฯ ครั้นทรงตำหนิแล้ว ฯลฯ ทรงแสดงธรรมีกถารับสั่งกับภิกษุทั้งหลาย ว่า ภิกษุทั้งหลาย ของที่ไม่ควรแบ่ง ๕ หมวด สงฆ์ คณะหรือบุคคลไม่พึงแบ่ง แม้ แบ่งแล้วก็ไม่เป็นอันแบ่ง รูปใดแบ่ง ต้องอาบัติถุลลัจจัย ของที่ไม่ควรแบ่ง ๕ หมวด คือ ๑. อาราม พื้นที่อาราม นี้เป็นของ ที่ไม่ควรแบ่งอันดับที่ ๑ สงฆ์ คณะ หรือบุคคลไม่พึงแบ่ง แม้แบ่งแล้วก็ไม่เป็นอันแบ่ง รูปใดแบ่ง ต้อง อาบัติถุลลัจจัย {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๗ หน้า : ๑๔๔}
พระวินัยปิฎก จูฬวรรค [๖. เสนาสนขันธกะ]
๓. ตติยภาณวาร
๒. วิหาร พื้นที่วิหาร นี้เป็นของที่ไม่ควรแบ่งอันดับที่ ๒ สงฆ์ คณะ หรือบุคคล ไม่พึงแบ่ง แม้แบ่งแล้วก็ไม่เป็นอันแบ่ง รูปใดแบ่ง ต้อง อาบัติถุลลัจจัย ๓. เตียง ตั่ง ฟูก หมอน นี้เป็นของที่ไม่ควรแบ่งอันดับที่ ๓ สงฆ์ คณะ หรือบุคคลไม่พึงแบ่ง แม้แบ่งแล้วก็ไม่เป็นอันแบ่ง รูปใดแบ่ง ต้อง อาบัติถุลลัจจัย ๔. หม้อโลหะ อ่างโลหะ กระถางโลหะ กระทะโลหะ มีด ขวาน ผึ่ง จอบ สว่าน นี้เป็นของที่ไม่ควรแบ่งอันดับที่ ๔ สงฆ์ คณะหรือ บุคคลไม่พึงแบ่ง แม้แบ่งแล้วก็ไม่เป็นอันแบ่ง รูปใดแบ่ง ต้องอาบัติ ถุลลัจจัย ๕. เถาวัลย์ ไม้ไผ่ หญ้าปล้อง หญ้ามุงกระต่าย หญ้าสามัญ ดิน เครื่องไม้และ เครื่องดินนี้เป็นของที่ไม่ควรแบ่งอันดับที่ ๕ สงฆ์ คณะ หรือบุคคลไม่พึงแบ่ง แม้แบ่ง แล้วก็ไม่เป็นอันแบ่ง รูปใดแบ่ง ต้อง อาบัติถุลลัจจัย ภิกษุทั้งหลาย ของที่ไม่ควรแบ่ง ๕ หมวดเหล่านี้แล สงฆ์ คณะหรือบุคคลไม่ พึงแบ่ง แม้แบ่งแล้วก็ไม่เป็นอันแบ่ง รูปใดแบ่ง ต้องอาบัติถุลลัจจัยเนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๗ หน้าที่ ๑๔๑-๑๔๕. http://84000.org/tipitaka/attha/m_siri.php?B=7&siri=40 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2]. อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=7&A=2537&Z=2629 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=7&i=292 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=7&item=292&items=2 อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=3&A=7797 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=7&item=292&items=2 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=3&A=7797 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๗ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu7 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-kd16/en/brahmali#pli-tv-kd16:15.1.0 https://suttacentral.net/pli-tv-kd16/en/horner-brahmali#BD.5.238
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]