ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๔๑. เมตเตยยวรรค]

๘. โตเทยยเถราปทาน

๘. โตเทยยเถราปทาน
ประวัติในอดีตชาติของพระโตเทยยเถระ
(พระโตเทยยเถระ เมื่อจะประกาศประวัติในอดีตชาติของตน จึงกล่าวว่า) [๒๒๔] ครั้งนั้น (ข้าพเจ้าเกิดเป็น)พระราชาพระนามว่าวิชิตชัย ในกรุงเกตุมดี เป็นเมืองชั้นเลิศ เป็นผู้แกล้วกล้า เต็มเปี่ยมด้วยความกล้าหาญ ประทับอยู่ท่ามกลางกรุง [๒๒๕] เมื่อพระราชาพระองค์นั้น ทรงประมาท ข้าศึกแห่งแว่นแคว้นก็กำเริบขึ้น ฝ่ายตรงกันข้ามและพวกยุยงก็ทำลายแว่นแคว้น [๒๒๖] เมื่อปัจจันตชนบท(ชนบทปลายแดน)กำเริบ พระราชาจึงรับสั่งให้พลรบและทหารสื่อสารมาประชุมกัน รับสั่งให้ปราบข้าศึก ในครั้งนั้น [๒๒๗] พลช้าง พลม้า ทหารสวมเกราะกล้าหาญ ทหารแม่นธนู และพลรถ มาประชุมกันทั้งหมด [๒๒๘] พวกพ่อครัว พนักงานเครื่องต้น พนักงานสรงสนาน ช่างทำดอกไม้ เป็นผู้กล้าหาญ เคยชนะในสงคราม มาประชุมกันทั้งหมด [๒๒๙] พวกชายฉกรรจ์ถือดาบ ถือธนู สวมเกราะหนัง เป็นคนแข็งแรง เคยชนะในสงคราม มาประชุมกันทั้งหมด [๒๓๐] ช้างมาตังคะตกมัน ๓ แห่ง เสื่อมกำลังเมื่ออายุ ๖๐ ปี มีสายประโคน๑- @เชิงอรรถ : @ สายรัดจากใต้สัปคับคือที่นั่งบนหลังช้าง ใช้รัดสัปคับอกช้าง หลังขาหน้าแล้วลอดมาบรรจบกันโยงใต้ @ท้องช้างและหน้าขาหลังไปจากสายชนักที่คอช้าง {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๖๘๔}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๔๑. เมตเตยยวรรค]

๘. โตเทยยเถราปทาน

พานหน้าพานหลัง และเครื่องประดับทองคำ มาประชุมกันทั้งหมด [๒๓๑] นักรบอาชีพ อดทนต่อความหนาวความร้อน อดทนต่ออุจจาระปัสสาวะ เตรียมการสำเร็จแล้ว มาประชุมกันทั้งหมด [๒๓๒] พวกทหารเหล่านั้นร่าเริงด้วยเสียงสังข์ เสียงกลอง และเสียงแตกตื่นมาประชุมกันทั้งหมด [๒๓๓] พวกทหารเหล่านั้นตีรันฟันแทงด้วยหลาว หอก แหลน ธนู และโตมร กลับมาประชุมกันทั้งหมด [๒๓๔] ในครั้งนั้น ข้าพเจ้าสวมเกราะแล้ว สั่งให้จับทหาร ๖๐,๐๐๐ คน พร้อมทั้งพระราชาผู้ชนะ คนที่ไม่เคยชนะเสียบหลาว(ประจาน) [๒๓๕] ทหารเหล่านั้นพากันส่งเสียงร้องว่า โธ่เอ๋ย พระราชาไร้ธรรม เมื่อถูกไฟเผาไหม้อยู่ในนรก เมื่อไรจักสิ้นสุดกรรม [๒๓๖] ครั้งนั้น ข้าพเจ้านอนอยู่บนที่นอน เห็นไฟนรก จึงนอนไม่หลับตลอดทั้งวันทั้งคืน พวกนายนิรยบาลใช้หลาวขู่ข้าพเจ้า [๒๓๗] (ข้าพเจ้าคิดว่า) ความมัวเมาราชสมบัติ สัตว์พาหนะ และพลรบ จะมีประโยชน์อะไร สิ่งเหล่านั้นไม่สามารถจะต้านทานเราไว้ได้ มีแต่จะทำให้สะดุ้งอยู่ทุกเมื่อ [๒๓๘] บุตร ภรรยา และราชสมบัติทั้งหมด จะมีประโยชน์อะไรสำหรับเรา ทางที่ดีเราควรออกบวช ชำระทางที่จะดำเนินไปให้หมดจด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๖๘๕}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๔๑. เมตเตยยวรรค]

๘. โตเทยยเถราปทาน

[๒๓๙] ช้างมาตังคะ ๖๐,๐๐๐ เชือก ตกแต่งด้วยเครื่องประดับทุกอย่าง มีสายประโคนพานหน้า พานหลัง เครื่องประดับศีรษะทองคำ [๒๔๐] มีนายควาญช้างถือโตมรและขอขึ้นขี่ประจำ ข้าพเจ้าไม่มีความห่วงใยละทิ้งไว้ในสนามรบ เดือดร้อนเพราะกรรมของตน จึงออกบวชเป็นบรรพชิต [๒๔๑] ม้าสินธพชาติอาชาไนย ๖๐,๐๐๐ ตัว ตกแต่งด้วยเครื่องประดับทุกอย่างเป็นพาหนะวิ่งเร็ว [๒๔๒] มีทหารม้าถือธนูสวมเกราะขึ้นขี่ประจำ ข้าพเจ้าทอดทิ้งม้าเหล่านั้นทั้งหมดแล้ว ออกบวชเป็นบรรพชิต [๒๔๓] รถ ๖๐,๐๐๐ คัน ตกแต่งด้วยเครื่องอลังการพร้อมสรรพ เป็นรถที่หุ้มหนังเสือเหลืองบ้าง หุ้มหนังเสือโคร่งบ้างบรรทุกอาวุธรบ ปักธงไว้หน้ารถ ข้าพเจ้าละทิ้งรถนั้นทั้งหมดแล้วออกบวชเป็นบรรพชิต [๒๔๔] แม่โคนม ๖๐,๐๐๐ ตัว และขันสำริดสำหรับรองน้ำนม ทั้งหมดข้าพเจ้าละทิ้งแล้ว ออกบวชเป็นบรรพชิต [๒๔๕] สตรี ๖๐,๐๐๐ นาง ผู้ประดับด้วยเครื่องอลังการทั้งปวง สวมใส่ผ้าอาภรณ์อย่างงดงาม ห้อยตุ้มหูแก้วมณี [๒๔๖] มีตากลมโต มีปกติร่าเริง รูปร่างงดงาม เอวเล็กเอวบาง ข้าพเจ้าละสตรีเหล่านั้นผู้พากันคร่ำครวญอยู่แล้ว ออกบวชเป็นบรรพชิต {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๖๘๖}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๔๑. เมตเตยยวรรค]

๘. โตเทยยเถราปทาน

[๒๔๗] หมู่บ้าน ๖๐,๐๐๐ ตำบล ที่บริบูรณ์ด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง ข้าพเจ้าละทิ้งราชสมบัตินั้นแล้ว ออกบวชเป็นบรรพชิต [๒๔๘] ข้าพเจ้าออกจากนครแล้ว เข้าไปยังภูเขาหิมพานต์ ได้สร้างอาศรมไว้ ณ ที่ใกล้ฝั่งแม่น้ำภาคีรถี [๒๔๙] สร้างบรรณศาลาเสร็จแล้ว สร้างโรงสำหรับบูชาไฟ บำเพ็ญเพียร มีจิตเด็ดเดี่ยว อยู่ในอาศรม [๒๕๐] เมื่อข้าพเจ้าเข้าฌานอยู่ในมณฑปก็ดี ที่โคนต้นไม้ก็ดี ในเรือนว่างก็ดี ความสะดุ้งกลัวย่อมไม่มีแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่เห็นภัยที่น่าหวาดกลัวเลย [๒๕๑] ในขณะนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ผู้เลิศ ประกอบด้วยพระกรุณา เป็นมุนี มีแสงสว่างแห่งพระญาณโชติช่วง เสด็จอุบัติขึ้นในโลก [๒๕๒] ใกล้อาศรมของข้าพเจ้า มียักษ์ตนหนึ่งผู้มีฤทธิ์มาก เมื่อพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุดอุบัติขึ้นแล้ว ยักษ์บอกกับข้าพเจ้าในครั้งนั้นว่า [๒๕๓] พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นแล้วในโลก พระองค์ทรงพระนามว่าสุเมธะ ทรงมีจักษุ ทรงช่วยหมู่ชนทั้งปวงให้ข้าม แม้ท่าน พระองค์ก็จักช่วยให้ข้าม [๒๕๔] ขณะนั้น ข้าพเจ้าฟังคำของยักษ์แล้วมีความสลดใจ คิดอยู่ว่า พุทโธ พุทโธ ปิดอาศรม [๒๕๕] ข้าพเจ้าทิ้งฟืนสำหรับบูชาไฟ และเก็บสันถัต ไหว้อาศรมแล้วออกจากป่าใหญ่ไป [๒๕๖] ข้าพเจ้าถือไม้จันทน์จากที่นั้น จากบ้านไปสู่บ้าน จากเมืองไปสู่เมือง {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๖๘๗}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๔๑. เมตเตยยวรรค]

๘. โตเทยยเถราปทาน

แสวงหาพระพุทธเจ้าผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพอยู่ ได้เข้าเฝ้าพระองค์ ซึ่งเป็นผู้นำโดยวิเศษ [๒๕๗] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพระนามว่าสุเมธะ ผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลก ทรงประกาศสัจจะ ๔ ทำหมู่ชนจำนวนมากให้ตรัสรู้ [๒๕๘] ข้าพเจ้าประนมมือไหว้เหนือเศียรเกล้า ถวายอภิวาทพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า [๒๕๙] เมื่อต้นมะลิซ้อนมีดอกบานสะพรั่ง กลิ่นหอมฟุ้งไปในที่ใกล้ ข้าแต่พระองค์ผู้มีความเพียร พระองค์มีกลิ่นคือคุณหอมฟุ้งไปทั่วทุกทิศ [๒๖๐] เมื่อต้นจำปา ต้นกระถินพิมาน ต้นลำดวน ต้นการะเกด และต้นสาละ กำลังมีดอกบาน กลิ่นหอมฟุ้งไปตามลม [๒๖๑] ข้าพระองค์สูดกลิ่นของพระองค์ จึงจากภูเขาหิมพานต์มาจนถึงที่นี่ ข้าแต่พระองค์ผู้มีความเพียรมาก ผู้เจริญที่สุดในโลก มีพระยศยิ่งใหญ่ ข้าพระองค์ขอบูชาพระองค์ [๒๖๒] ข้าพเจ้าใช้จุรณจันทน์อย่างดี ไล้ทาพระพุทธเจ้าพระนามว่าสุเมธะ ผู้ทรงเป็นผู้นำสัตว์โลกทำจิตของตนให้เลื่อมใส แล้วได้ยืนนิ่งอยู่ในขณะนั้น [๒๖๓] พระผู้มีพระภาคพระนามว่าสุเมธะ ผู้เจริญที่สุดในโลก ทรงองอาจกว่านรชน {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๖๘๘}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๔๑. เมตเตยยวรรค]

๘. โตเทยยเถราปทาน

ประทับนั่งในท่ามกลางภิกษุสงฆ์แล้ว ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า [๒๖๔] เราจักพยากรณ์ผู้ที่สรรเสริญคุณของเรา และได้ใช้จุรณจันทน์บูชา ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าวเถิด [๒๖๕] ผู้นี้จักเป็นผู้กล่าวถ้อยคำที่เชื่อถือได้ เป็นพรหม ผู้ซื่อตรง มีตบะ มีรัศมีสว่างไสวตลอด ๒๕ กัป [๒๖๖] จักรื่นรมย์ในเทวโลกตลอด ๒,๖๐๐ กัป จักเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑,๐๐๐ ชาติ [๒๖๗] จักเป็นจอมเทพครองเทวสมบัติ ๓๓ ชาติ จักเป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์นับชาติไม่ถ้วน [๒๖๘] ผู้นี้จุติจากเทวโลกนั้นแล้ว จักไปเกิดเป็นมนุษย์ ประกอบด้วยบุญกรรม จักเป็นบุตรของพราหมณ์ [๒๖๙] พราหมณ์ชื่อพาวรี ผู้คงแก่เรียน ทรงมนตร์ จบไตรเพท ถึงพร้อมด้วยลักษณะ ๓ ประการ [๒๗๐] เขาเป็นศิษย์ของพราหมณ์นั้นเป็นผู้จบมนตร์ จักได้เข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่าโคดมศากยะ ผู้ประเสริฐ [๒๗๑] ข้าพเจ้าได้ทูลถามปัญหาอย่างละเอียด ทำใจให้ร่าเริง กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ [๒๗๒] ไฟ ๓ กองของข้าพเจ้าดับแล้ว ภพทั้งปวงข้าพเจ้าถอนได้แล้ว ข้าพเจ้ากำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๒ หน้า : ๖๘๙}

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [๔๑. เมตเตยยวรรค]

๙. ชตุกัณณิกเถราปทาน

[๒๗๓] กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนได้แล้ว ข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันได้แล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ ดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระ [๒๗๔] การที่ข้าพเจ้าได้มาในสำนักของพระพุทธเจ้า เป็นการมาดีแล้วโดยแท้ วิชชา ๓ ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว [๒๗๕] คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว ดังนี้แล ได้ทราบว่า ท่านพระโตเทยยเถระได้ภาษิตคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้
โตเทยยเถราปทานที่ ๘ จบ


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๒ หน้าที่ ๖๘๔-๖๙๐. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=32&siri=410              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=32&A=9267&Z=9352                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=32&i=410              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=32&item=410&items=1              อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=50&A=5452              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=32&item=410&items=1              The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=50&A=5452                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๒ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu32              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/tha-ap410/en/walters



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :