![]() |
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
![]() |
![]() | |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() เพราะเมื่อท่านไม่กล่าวธรรมไว้ก็ไม่สามารถจะกล่าวถึงกิจของธรรมนั้นได้. ฉะนั้น จึงไม่สนใจลำดับที่ท่านยกขึ้นชี้แจงธรรมทั้งหลายก่อน. อรรถแห่งธรรมเป็นต้นท่านได้กล่าวไว้แล้ว. พระสารีบุตรเถระกล่าวธรรมอันนับเนื่องด้วย ธมฺม ศัพท์ด้วยบทมีอาทิว่า สทฺ จริงอยู่ เมื่อท่านกล่าวว่า อญฺโญ ธมฺโม เป็นธรรมอย่างหนึ่ง เป็นอันท่านแสดงถึงความต่างกันแห่งธรรมทั้งหลาย. บทว่า ปฏิวิทิตา - รู้เฉพาะแล้ว คือ รู้โดยความเป็นธรรมเฉพาะหน้า ชื่อว่าปรากฏแล้ว. ด้วยบทนั้น ท่าน พระสารีบุตรเถระแสดงถึงกิจมีการน้อมใจเชื่อเป็นต้น เป็นอรรถแห่งศรัทธาเป็นต้นเหล่านั้น ด้วยบทมีอาทิว่า อธิโมกฺขฏฺโฐ อตฺโถ - สภาพว่าน้อมใจเชื่อเป็นอรรถ. บทว่า สนฺทสฺเสตํ คือ เพื่อแสดงอย่างอื่นแก่ผู้ใคร่จะรู้ แต่เมื่อผู้อื่นฟังถ้อยคำก็ย่อมได้เหมือนกัน. บทว่า พยญฺชนนิรุตฺตาภิลาปา - การระบุพยัญชนะและนิรุตติ คือนามพยัญชนะ นามนิรุตติ นามาภิลาปะ. ชื่อที่ยังอรรถให้ปรากฏ ชื่อว่าพยัญชนะ. ชื่อว่านิรุตติ เพราะเจาะจงอย่างนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิ่งทั้งหลายย่อมปรุงแต่งสิ่งที่เป็นสังขตะ.๑- เพราะฉะนั้น จึงเรียกว่าสังขาร แล้วกล่าวทำให้มีเหตุ, ท่านกล่าวว่าอภิลาปะ เพราะเป็นเหตุระบุความ. ____________________________ ๑- สํ. ขนฺธ. เล่ม ๑๗/ข้อ ๑๕๙ อนึ่ง ชื่อว่านาม นี้มี ๔ อย่าง คือ สามัญนาม ๑ คุณนาม ๑ กิตติมนาม ๑ โอปปาติกนาม ๑. ในนาม ๔ อย่างนั้น ในปฐมกัปพระนามของพระราชาว่า มหาสมมติราช เพราะมหาชนสมมติตั้งขึ้น ชื่อว่าสามัญนาม - นามโดยสามัญ. ท่านกล่าวหมายถึง๑- บทว่า ดูก่อนวาเสฏฐะและภารทวาชะ เพราะเหตุที่ผู้เป็นหัวหน้า อัน ____________________________ ๑- ที. ปา. เล่ม ๑๑/ข้อ ๖๓ ชื่อที่ได้มาโดยคุณความดีอย่างนี้ว่า พระธรรมกถึก ปังสุกูลิกภิกษุ วินัยธรภิกษุ ติปิฏกธรภิกษุ ผู้มีศรัทธา ผู้มีสติ ดังนี้ ชื่อว่าคุณนาม - โดยคุณความดี. ชื่อโดยคุณความดีของพระตถาคต ตั้งหลายร้อยชื่อ มีอาทิว่า ภควา อรหํ สมฺมา อสงฺเขยฺยานิ นามานิ สคุเณน มหาสิโน คุเณหิ นามํ อุทฺเธยฺย อปินาม สหสฺสโต. พระนามของพระตถาคตผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยคุณความดีมีนับไม่ถ้วน. บัณฑิตควรยก พระนามด้วยพระคุณขึ้นแสดง แม้ตั้งพันพระนาม. ในวันตั้งชื่อเด็กที่เกิด พวกญาติพากันทำสักการะแก่ทักขิไณยบุคคล แล้วอยู่ใกล้ กำหนดตั้งชื่อว่าทารกนี้ชื่อโน้นดังนี้ นี้ชื่อว่า กิตติมนาม - นามโดยมีเกียรติ. อนึ่ง การบัญญัติแต่ก่อนก็ยังตกทอดถึงการบัญญัติต่อมา. โวหารแต่ก่อนก็ยังตกทอดถึงโวหารภายหลัง. เหมือนอย่างว่า แม้ในปุริมกัป ดวงจันทร์ก็ชื่อว่าจันทร์. แม้เดี๋ยวนี้ก็ยังชื่อว่าดวงจันทร์นั่นเอง. ในอดีต ดวงอาทิตย์ สมุทร ปฐพีก็ยังชื่อเหมือนเดิม ภูเขาก็ชื่อว่าภูเขา. แม้เดี๋ยวนี้ก็ยังชื่อว่าภูเขานั่นเอง. นี้ชื่อว่าโอปปาติกนาม คือเป็นนามที่ผุดเกิด. ชื่อแม้ ๔ อย่างนี้ ก็เป็นชื่อเดียวนั่นเอง. ชื่อนั้นใช้เพียงเป็นที่สังเกตของชาวโลก ว่าโดยปรมัตถ์ไม่มีอยู่. ส่วนอาจารย์พวกอื่นกล่าวว่า ชื่อว่านาม เป็นเสียงส่องถึงเนื้อความ. ทำนองเดียวกับนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล. จบอรรถกถาปฏิสัมภิทาญาณนิทเทส ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค มหาวรรค ๑. ญาณกถา ปฏิสัมภิทาญาณนิทเทส จบ. |