บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
พระเถระแม้นี้ได้บำเพ็ญบุญสมภารไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ ถึงฝั่งแห่งไตรเพท ผู้ชำนาญเวยยากรณ์อันเป็นบทแห่งศาสตร์ทั้งหลายมีอิติหาสศาสตร์เป็นที่ ๕ เป็นผู้ชำนาญในมหาปุริสลักษณะอันเป็นศาสตร์แห่งโลกอันปรากฏโดยชื่อว่าเสล ด้วยบุญกรรมนั้น ท่านจึงเสวยสมบัติชั้นกามาวจร ๖ ชั้นมีเป็นท้าวสักกะและเป็นมารเป็นต้นในเทวโลก เสวยจักร เพราะการชมเชยพระพุทธเจ้า เป็นเหตุกระทำความเลื่อมใสแห่งจิตของสัตว์ทั้งปวง ท่านจึงปรากฏนามว่า ปรัปปสาทกเถระ ดังนี้. วันหนึ่ง ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะประกาศปุพพจริตาปทานของตน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า อุสภํ ปวรํ วีรํ ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อุสภํ ความว่า ผู้เป็นโคผู้ผู้ประเสริฐสุด ๔ คือ วสภะ, นิสภะ, วิสภะ, อาสภะ. ใน ๔ ตัวนั้น โคผู้ประเสริฐกว่าโค ๑,๐๐๐ ตัว ชื่อว่าวสภะ, ผู้ประเสริฐกว่าโค ๑,๐๐๐ ตัว ชื่อว่านิสภะ, ผู้ประเสริฐกว่า ๑๐,๐๐๐ ตัว ชื่อว่าวิสภะ, และผู้ประเสริฐกว่าโค ๑๐๐,๐๐๐ โกฏิตัว ชื่อว่าอาสภะ. พราหมณ์ผู้เป็นบัณฑิต ผู้มีพระพุทธพจน์อันสดับแล้วมาก เมื่อจะกล่าวชมเชยท่านผู้ใดผู้หนึ่ง จึงกระทำการชมเชยด้วยปัญญาของตนๆ แต่ผู้สามารถจะ สมจริงดังคำที่ท่านกล่าวไว้มีอาทิว่า แม้พระพุทธเจ้า พึงกล่าวสรรเสริญพระพุทธเจ้า หากแม้สรรเสริญอยู่ กัปอื่นๆ พึงสิ้นไปในระหว่างอายุ กาลนาน การสรรเสริญพระตถาคตหาสิ้นไปไม่. พราหมณ์แม้นี้ เมื่อควรกล่าว อาสภํ ด้วยอำนาจการคล่องปากด้วยการ ชื่อว่า วระ เพราะอรรถว่าบุคคลพึงปรารถนา คือพึงอยากได้. ชื่อว่า วีระ เพราะได้บำเพ็ญเพียรมาแสนกัปมิใช่น้อย. ชื่อว่า มเหสี เพราะค้นหา คือแสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่มีศีลขันธ์เป็นต้น. ซึ่งผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ คือพระพุทธเจ้าพระ ชื่อว่า วิชิตาวี เพราะชำนะมารมีกิเลสมารและขันธมารเป็นต้นโดยพิเศษ. ซึ่งผู้ชำนะพิเศษ วรรณะของพระพุทธเจ้าพระองค์ใด มีวรรณะเพียงดังว่าวรรณะแห่งทอง พระผู้มีพระ ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ เถราปทาน ๗. สกจิตตนิยวรรค ๔. ปรัปปสาทกเถราปทาน (๖๔) จบ. |