บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บท (อสังคหิเตน อสังคหิตะ) นั้นย่อมไม่ประกอบในบททั้งหลายมีทุกขสัจจะเป็นต้น อันเป็นไปด้วยขันธ์ ๕ และในบททั้งหลายอันมีอนิทัสสนาปปฏิฆะเป็นต้น อันเป็นไปด้วยสุขุมรูป กับด้วยวิญญาณ. เพราะพระนิพพานไม่พึงสงเคราะห์เข้าเป็นขันธ์ได้โดยบทเช่นนั้น. ส่วนบทที่เหลือ ชื่อว่าเป็นธรรมที่สงเคราะห์เข้าไม่ได้โดยขันธ์เป็นต้น ย่อมไม่มี ฉะนั้น บททั้งหลายอันมีรูปเช่นนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงถือเอาในวาระนี้. ก็แต่บทเหล่าใดไม่แสดงวิญญาณในขันธ์ ๕ โดยรวมกับสุขุมรูป บทเหล่านั้นพระองค์ทรงถือเอาในที่นี้. บัณฑิตพึงทราบอุทานแห่งบทเหล่านั้นดังนี้.
ก็ในนิทเทสนี้ ปัญหาแม้ทั้งหมดมี ๓๔ พร้อมกับบทที่ทรงรวบรวมไว้ด้วยสามารถแห่งคำวิสัชนาทำนองเดียวกัน. ในนิทเทสแห่งบทเหล่านั้น บทใด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงยกขึ้นแสดงเพื่อปุจฉา บทนั้นนั่นแหละสงเคราะห์ไม่ได้ด้วยธรรมเหล่าใดมีขันธ์เป็นต้น ทรงหมายเอาธรรมเหล่านั้น จึงตรัสว่า "เอเกน ขนฺเธน" เป็นอาทิ. ในข้อนี้ พึงทราบนัยดังนี้ว่า ขันธ์ ๔ นิพพาน ๑ นับสงเคราะห์ไม่ได้ด้วยรูปขันธ์ โดยขันธ์สงเคราะห์ ยกเว้นวิญญาณแล้ว ธรรมที่เหลือนับสงเคราะห์ได้โดยการสงเคราะห์เป็นอายตนะและธาตุ เพราะฉะนั้น วิญญาณนั่นแหละ ชื่อว่าสงเคราะห์เข้าไม่ได้ แม้โดยการสงเคราะห์ทั้ง ๓ มีขันธ์สงเคราะห์เป็นต้น. ขันธ์ ๔ ก็นับสงเคราะห์ไม่ได้ด้วยนิพพาน กับด้วยวิญญาณ โดยการสงเคราะห์เข้าเป็นขันธ์เป็นต้น. ธรรมแม้เหล่านั้นทั้งหมด สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยวิญญาณนั่นแหละ โดยขันธ์สงเคราะห์เป็นต้นอีก ฉะนั้น ธรรมเหล่านั้น จึงชื่อว่านับสงเคราะห์ไม่ได้ ด้วยขันธ์ ๑ อายตนะ ๑ ธาตุ ๗. อีกนัยหนึ่ง วิญญาณใดนั้นนั่นแหละ นับสงเคราะห์ไม่ได้ด้วยรูปขันธ์ โดยการสงเคราะห์ทั้ง ๓ มีขันธ์สงเคราะห์เป็นต้น รูปธรรมเหล่านั้นเทียว ก็สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยวิญญาณธรรม แม้เหล่านั้น โดยการสงเคราะห์ทั้ง ๓. และรูปธรรมเหล่านั้นก็นับสงเคราะห์ไม่ได้ด้วยวิญญาณ โดยการสงเคราะห์ทั้ง ๓ อีก. ด้วยว่าวิญญาณ เมื่อว่าโดยขันธ์ เป็นวิญญาณขันธ์ ๑ เมื่อว่าโดยอายตนะ เป็นมนายตนะ ๑ เมื่อว่าโดยธาตุ เป็นวิญญาณธาตุ ๗ เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า "เอเกน ขนฺเธน" เป็นอาทิ. โดยอุบายนี้ ในบททั้งปวง บทใด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงยกขึ้นแสดงเพื่อปุจฉา บทนั้นนั่นแหละ นับสงเคราะห์ไม่ได้ โดยธรรมเหล่าใดด้วยสามารถแห่งขันธ์เป็นต้น บัณฑิตพึงทราบขันธ์เป็นต้น ที่สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยสามารถแห่งธรรมเหล่านั้น. ในนิทเทสนั้น ปัญหาที่ ๒ พึงทราบด้วยสามารถแห่งรูป และวิญญาณก่อน เพราะว่า เวทนาเป็นต้น นับสงเคราะห์ไม่ได้ด้วยรูปและวิญญาณนั่นแหละ โดยการสงเคราะห์เป็นขันธ์เป็นต้น. ด้วยว่า ขันธ์ทั้ง ๒ เหล่านั้นเป็นอายตนะ ๑๑ เป็นธาตุ ๑๗. ในปัญหาที่ ๓ วิญญาณ นับสงเคราะห์ไม่ได้ ด้วยขันธ์ ๔ มีรูปขันธ์เป็นต้น ฉะนั้น บัณฑิตพึงทราบธรรมทั้งหลายมีขันธ์เป็นต้น ด้วยสามารถแห่งธรรมเหล่านั้น. ในปัญหาที่ ๔ พึงทราบธรรมทั้งหลายมีขันธ์เป็นต้น ในปัญหาทั้งปวงโดยนัยนี้ว่า จักขวายตนะ นับสงเคราะห์ไม่ได้ โดยขันธ์ ๔ มีเวทนาเป็นต้น. ในปริโยสานธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ในอุทานคาถานั่นแหละว่า "รูปํ ธมฺมายตนํ" เป็นอาทิ เป็นการแสดงย่อไว้โดยอาการอื่นฉะนี้แล. จบอรรถกถาอสังคหิเตนอสังคหิตปทนิทเทส. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ธาตุกถาปกรณ์ นิทเทส ๕. อสังคหิเตนอสังคหิตปทนิทเทส จบ. |