บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
ว่าด้วยการเทียบเคียงสัจฉิกัตถะด้วยความอุปมา คำตอบรับรองแม้ทั้ง ๒ ปัญหา เป็นของปรวาที. คำซักถามถึงความเป็นคนละอย่างของรูปกับบุคคล ดุจรูปกับเวทนาด้วยความเห็นทั่วไปที่ปรวาทีไม่เห็นด้วย เป็นของสกวาที. คำปฏิเสธเป็นของปรวาที. คำที่เหลือแม้ในที่นี้ชัดเจนแล้วโดยอรรถนั่นเทียว. ก็เมื่อว่าโดยธรรมแล้ว ในข้อนี้ในฝ่ายสกวาทีท่านแสดงนิคคหปัญจกะ คือหมวด ๕ แห่งนิค ถามว่า "แสดงอย่างไร" ตอบว่า ในขันธ์ทั้งหลายก่อน คือธรรมที่เป็นรูปเป็นมูละ หมุนไปได้ ๔ นัย ในเวทนามูละเป็นต้นก็เหมือนกัน รวมเป็น ๒๐ นัย (๔x๕=๒๐). ในอายตนะทั้งหลาย จักขายตนะมูละหมุนไปได้ ๑๑ นัย ในอายตนะที่เหลือก็ฉันนั้น รวมเป็น ๑๓๒ นัย (๑๑x๑๒=๑๓๒). ในธาตุทั้งหลาย จักขุธาตุมูละหมุนไปได้ ๑๗ นัย ในธาตุที่เหลือก็ฉันนั้น รวมเป็น ๓๐๖ นัย (๑๗x๑๘=๓๐๖). ในอินทรีย์ทั้งหลาย จักขุนทริยมูละหมุนไปได้ ๒๑ นัย ในอินทรีย์ที่เหลือก็ฉันนั้น รวมเป็น ๔๖๒ นัย (๒๑x๒๒=๔๖๒) รวมทั้งหมดเป็นนิคคหปัญจกะ ๙๒๐ นัย ด้วยประการฉะนี้. แม้ในฝ่ายปรวาที ท่านก็ทำให้สกวาทีรับคำถึงความเป็นคนละอย่างแห่งธรรมทั้งหลายมีรูปกับเวทนาเป็นต้น ด้วยสามารถแห่งอนุโลมว่า รูปํ อุปลพฺภติ แปลว่า ท่านหยั่งเห็นรูป เป็นต้น แล้วจึงยกเอาความเห็นทั่วไปขึ้นทำการซักถามถึงความเป็นคนละอย่างด้วยธรรมทั้งหลายมีรูปเป็นต้นกับบุคคล ด้วยสามารถแห่งคำอันมีเลศนัย เพราะอาศัยพระสูตรที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า บุคคลมีอยู่ อีก. คำที่เหลือแม้ในที่นี้ เป็นของง่ายโดยเนื้อความทั้งนั้น. เมื่อว่าโดยธรรม ท่านแสดงปฏิกัมมจตุกกะ คือหมวด ๔ แห่งปฏิกรรมไว้ ๙๒๐ นัย โดยนัยที่ข้าพเจ้ากล่าวแล้วในฝ่ายสกวาที. การเทียบเคียงสัจฉิกัตถะกับรูปเป็นต้นด้วยสามารถแห่งการอุปมามีประมาณเท่านี้. อรรถกถาโอปัมมสังสันทนา จบ. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา กถาวัตถุปกรณ์ ปุคคลกถา โอปัมมสังสันทนา จบ. |