บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า วตฺถุสงฺคโห ได้แก่ ประมวลด้วยวัตถุ. เนื้อความเฉพาะบท แม้ในบทที่เหลือ ก็พึงทราบอย่างนี้. ก็ในบทว่า วตฺถุสงฺคโห เป็นต้นนี้ มีอัตถโยชนา ดังต่อไปนี้ :- ประมวลด้วยวัตถุ พึงทราบก่อนอย่างนี้ว่า ก็สิกขาบททั้งปวง ชื่อว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประมวลด้วยวัตถุ เพราะเหตุว่า ไม่มีแม้แต่สิกขาบทเดียวที่ทรงบัญญัติ ในเพราะเหตุมิใช่วัตถุ. อนึ่ง ประมวลด้วยวิบัติ พึงทราบอย่างนี้ว่า เพราะเหตุที่อาบัติ ๒ กอง ทรงประมวลด้วยสีลวิบัติ, อาบัติ ๕ กอง ทรงประมวลด้วยอาจารวิบัติ, ๖ สิกขาบท ทรงประมวลด้วยอาชีววิบัติ ฉะนั้น สิกขาบทแม้ทั้งปวง ชื่อว่าทรงประมวลแล้วด้วยวิบัติ. อนึ่ง ประมวลด้วยอาบัติ พึงทราบอย่างนี้ว่า เพราะเหตุที่ไม่มีแม้แต่สิกขาบทเดียว ซึ่งพ้นจากอาบัติ ๗ กอง ฉะนั้น สิกขาบททั้งปวง ชื่อว่าทรงประมวลแล้วด้วยอาบัติ. อนึ่ง ประมวลด้วยนิทาน พึงทราบอย่างนี้ว่า สิกขาบททั้งปวง ทรงบัญญัติแล้วใน ๗ นคร เพราะฉะนั้น ชื่อว่าทรงประมวลแล้วด้วยนิทาน. อนึ่ง ประมวลด้วยบุคคล พึงทราบอย่างนี้ว่า เพราะเหตุที่ไม่มีแม้แต่สิกขาบทเดียว ที่ทรงบัญญัติในเมื่อไม่มีบุคคลผู้ประพฤติล่วง ฉะนั้น สิกขาบททั้งปวง ชื่อว่าทรงประมวลแล้วด้วยบุคคล. อนึ่ง สิกขาบททั้งปวง ทรงประมวลแล้วด้วยอาบัติ ๕ กองและ ๗ กอง. สิกขาบททั้งหมดนั้น เว้นจากสมุฏฐาน ๖ เสีย ย่อมเกิดไม่ได้ เพราะฉะนั้น ชื่อว่าทรงประมวลแล้วด้วยสมุฏฐาน. อนึ่ง สิกขาบททั้งปวง ทรงประมวลแล้วด้วยอาปัตตาธิกรณ์ในบรรดาอธิกรณ์ ๔. สิกขาบททั้งปวงย่อมถึงความระงับด้วยสมถะ ๗ เพราะฉะนั้น ชื่อว่าทรงประมวลแล้วด้วยสมถะ. แม้ประมวลด้วยกอง อธิกรณ์ สมุฏฐานและสมถะ ในบทว่า ขนฺธสงฺคโห เป็นอาทินี้ ก็พึงทราบอย่างนี้. คำที่เหลือ มีนัยดังกล่าวแล้วในหนหลังนั่นแล ฉะนี้แล. พรรณนาสังคหวัคค์ ในอัฏฐกถาวินัย ชื่อสมันตปาสาทิกา จบ และพรรณนาบทที่มีเนื้อความไม่ตื้น แห่งคัมภีร์บริวาร ก็จบดังนี้แล. ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ปริวาร ปัญจวรรค นวสังคหวรรคที่ ๕ จบ. |