ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ  พระวินัยปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  พระอภิธรรมปิฎก  ค้นพระไตรปิฎก  ชาดก  หนังสือธรรมะ 
 
อ่านอรรถกถา 8 / 1อ่านอรรถกถา 8 / 1362อรรถกถา เล่มที่ 8 ข้อ 1366
อรรถกถา ปริวาร
คาถาส่งท้าย

               วินัยฏฐกถาวสานคาถา               
                         พระโลกนาถผู้ชำนะ เมื่อจะทรงแนะนำบุคคลผู้ควรแนะนำ
               ได้ตรัสวินัยปิฎกใด ซึ่งแสดงจำแนกโดยอุภโตวิภังค์ ขันธกะ และ
               บริวาร, อรรถกถาชื่อสมันตปาสาทิกาแห่งวินัยปิฎกนั้น จบบริบูรณ์
               แล้ว โดยคันถะประมาณ ๒๗,๐๐๐ ถ้วนด้วยลำดับแห่งคำเพียงเท่านี้แล.
                         ในคำที่ว่า อรรถกถาวินัย ปลูกความเลื่อมใสรอบด้านนั้น
               มีคำอธิบายในข้อที่อรรถกถาชื่อสมันตปาสาทิกา เป็นคัมภีร์ปลูก
               ความเลื่อมใสรอบด้าน ดังนี้ :-
                         ในสมันตปาสาทิกานี้ ไม่ปรากฏคำน้อยหนึ่งที่ไม่น่าเลื่อมใสแก่
               วิญญูชนทั้งหลายผู้พิจารณาอยู่ โดยสืบลำดับแห่งอาจารย์ โดยแสดง
               ประเภทแห่งนิทานและวัตถุ โดยเว้นลัทธิของฝ่ายอื่น โดยความหมดจด
               แห่งลัทธิของตน โดยชำระพยัญชนะให้หมดจด โดยเนื้อความเฉพาะบท
               โดยลำดับแห่งบาลีและโยชนา โดยวินิจฉัยในสิกขาบท และโดยแสดง
               ประเภทแห่งนัยที่สมแก่วิภังค์ เพราะฉะนั้น อรรถกถาแห่งวินัย ซึ่ง
               พระโลกนาถผู้ทรงอนุเคราะห์สัตวโลกผู้ฉลาดในการฝึกชนที่ควรแนะนำ
               ได้ตรัสไว้แล้วอย่างนั้นนี้ จึงบ่งนามว่า "สมันตปาสาทิกา" แล.
                         ข้าพเจ้าเมื่ออยู่ที่ปราสาท อันห้อมล้อมด้วยกำแพงทองสะพรั่ง
               ด้วยต้นไม้มีร่มเงาอันเย็น มีสระน้ำพร้อมมูล เป็นที่รื่นรมย์ใจ ซึ่งอุบาสก
               ผู้ปรากฏนามว่า มหานิคมสามี ผู้เกิดในสกุลสูงเลื่อมใสในพระรัตนตรัย
               ด้วยศรัทธาไม่อากูล บำรุงพระสงฆ์ทุกเมื่อได้สร้างไว้ใกล้เรือนเป็นที่
               บำเพ็ญเพียรอันสูงลิ่ว ซึ่งภิกษุสงฆ์ผู้มีจาริตสีลอันสะอาดอาศัยอยู่ ที่ตั้งอยู่
               ทางด้านใต้แห่งมหาวิหาร อันประดับด้วยต้นมหาโพธิ ของพระศาสดา
               ซึ่งประดิษฐานอยู่บนภูมิภาค ในอุทยานมีนามว่ามหาเมฆวัน
                         (ข้าพเจ้า) ได้ฟังอรรถกถาซึ่งพระเถระในเกาะสีหล ได้รจนาไว้ทั้ง
               ๓ คัมภีร์เหล่านี้ คือมหาอรรถกถา มหาปัจจรี และกุรุนที ในสำนักพระเถระ
               ผู้ปรากฏโดยนามว่า "พุทธมิตต์" ซึ่งเป็นนักปราชญ์ รู้ทั่วถึงพระวินัย
               มีชื่อเสียง มาคำนึงถึงพระพุทธสิริเถระผู้มีศีลและอาจาระอันสะอาด จึงได้เริ่ม
               รจนาอรรถกถาวินัยอันใด ซึ่งให้สำเร็จประโยชน์ อรรถกถาวินัยนี้ ข้าพเจ้า
               ได้เริ่มรจนาในปีที่ ๒๐ ถ้วนซึ่งเป็นปีที่เกษมมีชัยของพระเจ้าสิริบาล ผู้เป็น
               ที่อาศัยอยู่แห่งสิริ มีพระยศ ทรงปกครองลังกาทวีปทั้งสิ้น ให้ปราศจากเสี้ยน
               หนาม สำเร็จเรียบร้อยเมื่อย่างเข้าปีที่ ๒๑.
                         อรรถกถาวินัยนี้ เข้าถึงความสำเร็จได้
               ในโลกซึ่งคับคั่งด้วยอุปัทวะ โดยกาลเพียงปีเดียว
               โดยปราศจากอุปัทวะฉันใด, ความริเริ่มทั้งปวง
               ที่อิงอาศัยธรรม ห่างอุปัทวะของสัตวโลกทั้งมวล
               จงพลันสำเร็จ ฉันนั้นเถิด.
                         อนึ่ง บุญใด ซึ่งข้าพเจ้าผู้มีความนับถือพระ
               สัทธรรมมาก รจนาอรรถกถานี้เพื่อให้พระธรรม
               ตั้งอยู่ยั่งยืน ได้สร้างสมแล้ว, ด้วยอานุภาพแห่งบุญ
               ทั้งมวลนั้น ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นผู้เสวยรสแห่งพระ
               สัทธรรมของพระธรรมราชาเถิด, ขอพระสัทธรรม
               จงตั้งอยู่ตลอดกาลนานเถิด, ขอฝนจงตกตามฤดูกาล
               ยังประชาให้ชุ่มชื่นตลอดกาลนานเถิด, ขอพระราชา
               จงปกครองแผ่นดินโดยธรรมเถิด ฉะนี้แล.
                         อรรถกถาวินัย ชื่อสมันตปาสาทิกา อันพระเถระผู้อันครูทั้งหลาย
               ขนานนามว่า "พุทธโฆสะ" ผู้ประดับด้วยศรัทธาปัญญาและความเพียร
               อันบริสุทธิ์ยิ่ง ผู้รุ่งเรืองด้วยกองคุณมีศีลอาจาระ ความซื่อตรงและความ
               อ่อนโยนเป็นต้น ผู้สามารถหยั่งลงสู่ชัฏ คือลัทธิของตนและลัทธิฝ่ายอื่น
               ผู้ประกอบด้วยความเฉียบแหลมด้วยปัญญา ผู้มีอานุภาพแห่งญาณ
               ไม่ติดขัด ในสัตถุศาสนากับทั้งอรรถกถาอันต่างด้วยปริยัติ คือพระไตรปิฏก
               ผู้รู้ไวยากรณ์มาก เป็นมหากวีนักพูดประเสริฐ พูดคำที่ควรพูดในกาลที่ควร๑-
               ผู้ประกอบด้วยถ้อยคำอันสละสลวยไพเราะอย่างยิ่ง ซึ่งเปล่งออกโดยง่าย
               ซึ่งให้เกิดแก่กรณสมบัติ ผู้เป็นเครื่องประดับวงศ์ของพระเถระทั้งหลาย
               ผู้อยู่ในมหาวิหาร ผู้ยังเถรวงศ์ให้สว่าง มีปัญญามั่นคงดีในอุตริมนุสธรรม
               อันประดับด้วยคุณ มีอภิญญา ๖ และปฏิสัมภิทาเป็นต้นเป็นประเภท
               มีปฏิสัมภิทาญาณอันแตกฉาน เป็นบริวารผู้มีปัญญาไพบูลย์ หมดจดดี
               ได้รจนาแล้วนี้ จบแล้ว.
                                   แม้พระนามว่า "พุทโธ" ของพระโลกเชษฐ์
                         ผู้มีพระหฤทัยสะอาดคงที่ แสวงหาคุณใหญ่หลวง
                         ยังเป็นไปอยู่ในโลก ตราบใด, ขออรรถกถาวินัยนี้
                         จงตั้งอยู่ในโลก แสดงนัยเพื่อความหมดจดแห่งศีล
                         แก่กุลบุตรทั้งหลาย ผู้แสวงหาพระนิพพาน เป็นที่
                         หลีกออกจากโลกตราบนั้น เทอญ.
____________________________
๑- พูดทั้งผูกทั้งแก้ (?)

               อรรถกถาวินัย จบแล้ว.               
               -----------------------------------------------------               

.. อรรถกถา ปริวาร คาถาส่งท้าย จบ.
อ่านอรรถกถา 8 / 1อ่านอรรถกถา 8 / 1362อรรถกถา เล่มที่ 8 ข้อ 1366
อ่านเนื้อความในพระไตรปิฎก
https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=8&A=13386&Z=13402
อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=3&A=12869
The Pali Atthakatha in Roman
https://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=3&A=12869
- -- ---- ----------------------------------------------------------------------------
ดาวน์โหลด โปรแกรมพระไตรปิฎก
บันทึก  ๒๓  พฤศจิกายน  พ.ศ.  ๒๕๕๖
หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :