![]() |
|
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
![]() |
![]() |
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๑. ลสุณวรรค
๔. ปาจิตติยกัณฑ์ จำนวนอาบัติในปาจิตติยกัณฑ์ ๑. ลสุณวรรค สิกขาบทที่ ๑ [๒๓๑] ภิกษุณีฉันกระเทียม ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. รับประเคนด้วยตั้งใจว่าจะฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ ๒. ฉัน ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำกลืนสิกขาบทที่ ๒ ภิกษุณีให้ถอนขนในที่แคบ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังให้ถอน ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อถอนเสร็จแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๓ ภิกษุณีใช้ฝ่ามือตบองค์กำเนิด ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังตบ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อตบเสร็จแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๔ ภิกษุณีใช้ท่อนยาง ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อใช้เสร็จแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๕ ภิกษุณีใช้น้ำชำระให้สะอาดลึกเกิน ๒ องคุลีเป็นอย่างมาก ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๘๙}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๑. ลสุณวรรค
๑. กำลังใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อใช้เสร็จแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๖ ภิกษุณีปรนนิบัติภิกษุผู้กำลังฉันด้วยน้ำดื่มหรือด้วยการพัด ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. ยืนอยู่ในระยะหัตถบาส ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๒. ยืนพ้นระยะหัตถบาส ต้องอาบัติทุกกฏสิกขาบทที่ ๗ ภิกษุณีออกปากขอข้าวเปลือกดิบมาฉัน ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. รับประเคนด้วยตั้งใจว่าจะฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ ๒. ฉัน ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำกลืนสิกขาบทที่ ๘ ภิกษุณีเทอุจจาระ หรือปัสสาวะ น้ำลาย หยากเยื่อ หรือของเป็นเดนภาย นอกฝา หรือภายนอกกำแพง ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังเท ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อเทแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๙ ภิกษุณีเทอุจจาระ หรือปัสสาวะ น้ำลาย หยากเยื่อ หรือของเป็นเดน บนของเขียวสด ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังเท ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อเทแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๙๐}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๒. รัตตันธการวรรค
สิกขาบทที่ ๑๐ ภิกษุณีไปดูการฟ้อนรำ การขับร้อง หรือการประโคมดนตรี ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังไป ต้องอาบัติทุกกฏ ๒. ยืนอยู่ในที่ที่พอจะมองเห็นหรือได้ยิน ต้องอาบัติปาจิตตีย์ลสุณวรรคที่ ๑ จบ ๒. รัตตันธการวรรค สิกขาบทที่ ๑ [๒๓๒] ภิกษุณียืนเคียงคู่กันสองต่อสองกับชายในเวลาค่ำคืนไม่มีประทีป ต้อง อาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. ยืนอยู่ในช่วงแขนชาย ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๒. ยืนพ้นระยะช่วงแขน ต้องอาบัติทุกกฏสิกขาบทที่ ๒ ภิกษุณียืนเคียงคู่กันสองต่อสองกับชายในโอกาสที่กำบัง ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. ยืนอยู่ในช่วงแขนชาย ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๒. ยืนพ้นระยะช่วงแขน ต้องอาบัติทุกกฏสิกขาบทที่ ๓ ภิกษุณียืนเคียงคู่กันสองต่อสองกับชายในที่แจ้ง ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. ยืนอยู่ในช่วงแขนชาย ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๒. ยืนพ้นระยะช่วงแขน ต้องอาบัติทุกกฏ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๙๑}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๒. รัตตันธการวรรค
สิกขาบทที่ ๔ ภิกษุณียืนเคียงคู่กันสองต่อสองกับชายในถนน หรือตรอกตัน หรือทางสามแพร่ง ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. ยืนอยู่ในช่วงแขนชาย ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๒. ยืนพ้นระยะช่วงแขน ต้องอาบัติทุกกฏสิกขาบทที่ ๕ ภิกษุณีเข้าไปสู่ตระกูลในเวลาก่อนฉันภัตตาหาร นั่งบนอาสนะแล้วจากไปโดยไม่ บอกเจ้าของบ้าน ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. ย่างเท้าก้าวที่ ๑ เข้าสู่บริเวณชายคา ต้องอาบัติทุกกฏ ๒. ย่างเท้าก้าวที่ ๒ ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๖ ภิกษุณีเข้าไปสู่ตระกูลภายหลังฉันภัตตาหาร นั่งบนอาสนะโดยไม่บอกเจ้าของบ้าน ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังนั่ง ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อนั่งแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๗ ภิกษุณีเข้าไปสู่ตระกูลในเวลาวิกาล ปู หรือใช้ให้ปูที่นอนโดยไม่บอกเจ้าของบ้าน แล้วนั่ง ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังนั่ง ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อนั่งแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๘ ภิกษุณีเพราะเข้าใจผิด เพราะใคร่ครวญผิดให้ผู้อื่นโพนทะนา ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๙๒}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๓. นหานวรรค
๑. กำลังให้โพนทะนา ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อให้โพนทะนาแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๙ ภิกษุณีสาปแช่งตนเอง หรือผู้อื่น ด้วยนรกหรือด้วยพรหมจรรย์ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังสาปแช่ง ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อสาปแช่งแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๑๐ ภิกษุณีร้องไห้ทุบตีตนเอง ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. ร้องไห้ทุบตีตนเอง ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ๒. ทุบตีตนแต่ไม่ร้องไห้ ต้องอาบัติทุกกฏรัตตันธการวรรคที่ ๒ จบ ๓. นหานวรรค สิกขาบทที่ ๑ [๒๓๓] ภิกษุณีเปลือยกายอาบน้ำ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังอาบ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. อาบเสร็จแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๒ ภิกษุณีให้ทำผ้าอาบน้ำเกินขนาด ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังให้ทำ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อให้ทำเสร็จแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๙๓}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๓. นหานวรรค
สิกขาบทที่ ๓ ภิกษุณีเลาะ หรือใช้ให้เลาะจีวรของภิกษุณี แล้วไม่เย็บ ไม่ขวนขวายเพื่อให้เย็บ ต้องอาบัติ ๑ อย่าง คือ อาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๔ ภิกษุณีให้วาระผลัดเปลี่ยนสังฆาฏิที่มีกำหนดระยะเวลา ๕ วัน ล่วงเลยไป ต้อง อาบัติ ๑ อย่าง คือ อาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๕ ภิกษุณีห่มจีวรสับเปลี่ยนกัน ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังห่ม ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อห่มแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๖ ภิกษุณีทำอันตรายแก่จีวรที่คณะจะพึงได้ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังทำ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อทำแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๗ ภิกษุณีคัดค้านการแจกจีวรที่ชอบธรรม ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังคัดค้าน ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อคัดค้านแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๘ ภิกษุณีให้สมณจีวรแก่ชาวบ้าน แก่ปริพาชกหรือแก่ปริพาชิกา ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๙๔}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๔. ตุวัฏฏวรรค
สิกขาบทที่ ๙ ภิกษุณีให้ล่วงเลยสมัยแห่งจีวรกาลด้วยความหวังในจีวรที่เลื่อนลอย ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังให้ล่วงไป ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อให้ล่วงไปแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๑๐ ภิกษุณีคัดค้านการเดาะกฐินที่ชอบธรรม ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังคัดค้าน ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อคัดค้านแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์นหานวรรคที่ ๓ จบ ๔. ตุวัฏฏวรรค สิกขาบทที่ ๑ [๒๓๔] ภิกษุณี ๒ รูป นอนบนเตียงเดียวกัน ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังนอน ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อนอนแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๒ ภิกษุณี ๒ รูป ใช้ผ้าผืนเดียวเป็นทั้งผ้าปูนอนและผ้าห่มนอนร่วมกัน ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังนอน ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อนอนแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๙๕}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๔. ตุวัฏฏวรรค
สิกขาบทที่ ๓ ภิกษุณีจงใจก่อความไม่ผาสุกแก่ภิกษุณีด้วยกัน ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังก่อ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อก่อแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๔ ภิกษุณีไม่ดูแลช่วยเหลือ หรือไม่ใส่ใจมอบหมายให้ผู้อื่นดูแลช่วยเหลือสหชีวินี ผู้ได้รับความลำบาก ต้องอาบัติ ๑ อย่าง คืออาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๕ ภิกษุณีให้ที่พักแก่ภิกษุณีแล้วโกรธ ไม่พอใจ ฉุดลากออกไป ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังฉุดลากออกไป ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อฉุดลากออกไปแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๖ ภิกษุณีผู้อยู่คลุกคลีไม่ยอมสละกรรม จนกระทั่งสงฆ์สวดสมนุภาสน์ครบ ๓ ครั้ง ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. จบญัตติ ต้องอาบัติทุกกฏ ๒. จบกรรมวาจาครั้งสุดท้าย ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๗ ภิกษุณีเที่ยวจาริกไปไม่มีกองเกวียนเป็นเพื่อน ในที่ที่รู้กันว่าน่าหวาดระแวง มีภัย น่ากลัวภายในรัฐ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังเดินไป ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อเดินไปแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๙๖}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๕. จิตตาคารวรรค
สิกขาบทที่ ๘ ภิกษุณีเที่ยวจาริกไปไม่มีกองเกวียนเป็นเพื่อน ในที่ที่รู้กันว่าน่าหวาดระแวง มีภัย น่ากลัวภายนอกรัฐ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังเดินไป ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อเดินไปแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๙ ภิกษุณีเที่ยวจาริกไปภายในพรรษา ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังเดินไป ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อเดินไปแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๑๐ ภิกษุณีอยู่จำพรรษาแล้ว ไม่หลีกจาริกไป ต้องอาบัติ ๑ อย่าง คือ อาบัติปาจิตตีย์ตุวัฏฏวรรคที่ ๔ จบ ๕. จิตตาคารวรรค สิกขาบทที่ ๑ [๒๓๕] ภิกษุณีไปดูโรงละครหลวง หอจิตรกรรม สวนสาธารณะ อุทยาน หรือ สระโบกขรณี ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังไป ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. ยืนในที่ที่มองเห็น ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๒ ภิกษุณีใช้ตั่งยาวหรือแท่น ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๙๗}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๕. จิตตาคารวรรค
๑. กำลังใช้สอย ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อใช้สอยแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๓ ภิกษุณีกรอด้าย ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังกรอ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อกรอแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๔ ภิกษุณีช่วยทำการขวนขวายเพื่อคฤหัสถ์ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังทำ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อทำแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๕ ภิกษุณีผู้อันภิกษุณีขอร้องอยู่ว่า แม่เจ้า โปรดมาช่วยระงับอธิกรณ์นี้ด้วยเถิด รับปากแล้วไม่ช่วยระงับ ไม่ขวนขวายให้ผู้อื่นช่วยระงับ ต้องอาบัติ ๑ อย่าง คือ อาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๖ ภิกษุณีให้ของเคี้ยวหรือของฉันด้วยมือตนแก่ชาวบ้าน แก่ปริพาชก หรือแก่ ปริพาชิกา ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๗ ภิกษุณีใช้ผ้าซับระดูแล้วไม่ยอมสละ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๙๘}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๕. จิตตาคารวรรค
๑. กำลังใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อใช้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๘ ภิกษุณีไม่สละ๑- ที่พักแล้วหลีกจาริกไป ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. ย่างเท้าก้าวที่ ๑ พ้นเขตไป ต้องอาบัติทุกกฏ ๒. ย่างเท้าก้าวที่ ๒ ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๙ ภิกษุณีเรียนดิรัจฉานวิชา ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังเรียน ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ บทสิกขาบทที่ ๑๐ ภิกษุณีสอนดิรัจฉานวิชา ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังสอน ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ บทจิตตาคารวรรคที่ ๕ จบ @เชิงอรรถ : @๑ ไม่สละ คือไม่บอกมอบหมายให้ผู้อื่นช่วยดูแลรักษาที่พัก (วิ.อ. ๒/๑๐๐๘/๕๑๐) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๒๙๙}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๖. อารามวรรค
๖. อารามวรรค สิกขาบทที่ ๑ [๒๓๖] ภิกษุณีรู้อยู่เข้าไปสู่อารามที่มีภิกษุโดยไม่บอก ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. ย่างเท้าก้าวที่ ๑ เข้าเขต ต้องอาบัติทุกกฏ ๒. ย่างเท้าก้าวที่ ๒ ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๒ ภิกษุณีด่าบริภาษภิกษุ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังด่า ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อด่าแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๓ ภิกษุณีขึ้งเคียดบริภาษคณะ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบริภาษ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบริภาษแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๔ ภิกษุณีผู้ได้รับนิมนต์แล้วบอกห้ามภัตตาหารแล้ว ฉันของเคี้ยวหรือของฉัน ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. รับประเคนด้วยตั้งใจว่า จะเคี้ยวจะฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ ๒. ฉัน ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ทุกๆ คำกลืนสิกขาบทที่ ๕ ภิกษุณีหวงตระกูล ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังหวง ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อหวงแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๐๐}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๖. อารามวรรค
สิกขาบทที่ ๖ ภิกษุณีจำพรรษาในอาวาสที่ไม่มีภิกษุ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. ตั้งใจว่าจะจำพรรษาแล้วจัดแจงเสนาสนะ ตั้งน้ำฉันน้ำใช้ กวาดบริเวณ ต้องอาบัติทุกกฏ ๒. พออรุณขึ้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๗ ภิกษุณีอยู่จำพรรษาแล้ว ไม่ปวารณาในสงฆ์ ๒ ฝ่าย ด้วยฐานะ ๓ ต้องอาบัติ ๑ อย่าง คือ อาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๘ ภิกษุณีไม่ไปรับโอวาท หรือธรรมเป็นเหตุอยู่ร่วมกัน ต้องอาบัติ ๑ อย่าง คือ อาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๙ ภิกษุณีไม่ถามอุโบสถบ้าง ไม่ถามโอวาทบ้าง ต้องอาบัติ ๑ อย่าง คือ อาบัติ ปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๑๐ ภิกษุณีไม่บอกสงฆ์หรือคณะ ใช้ให้บ่งฝีหรือบาดแผลที่เกิดในร่มผ้าอยู่กันสอง ต่อสองกับชาย ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังให้บ่ง ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบ่งแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์อารามวรรคที่ ๖ จบ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๐๑}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๗. คัพภินีวรรค
๗. คัพภินีวรรค สิกขาบทที่ ๑ [๒๓๗] ภิกษุณีบวชให้สตรีมีครรภ์ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๒ ภิกษุณีบวชให้สตรีมีลูกยังดื่มนม ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๓ ภิกษุณีบวชให้สิกขมานาผู้ยังไม่ได้ศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ข้อ ตลอด ๒ ปี ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๔ ภิกษุณีบวชให้สิกขมานาผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ข้อ ตลอด ๒ ปีแล้ว แต่สงฆ์ยังมิได้สมมติ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๕ ภิกษุณีบวชให้หญิงที่มีครอบครัวมีอายุต่ำกว่า ๑๒ ปี ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๐๒}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๗. คัพภินีวรรค
สิกขาบทที่ ๖ ภิกษุณีบวชให้หญิงที่มีครอบครัวอายุครบ ๑๒ ปี ยังไม่ได้ศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ข้อ ตลอด ๒ ปี ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๗ ภิกษุณีบวชให้หญิงที่มีครอบครัวอายุครบ ๑๒ ปี ได้ศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ข้อ ตลอด ๒ ปี แต่ยังมิได้สมมติ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๘ ภิกษุณีบวชให้สหชีวินีแล้วไม่อนุเคราะห์ ไม่ให้อนุเคราะห์ตลอด ๒ ปี ต้อง อาบัติ ๑ อย่าง คือ อาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๙ ภิกษุณีไม่ติดตามปวัตตินีผู้บวชให้ ตลอด ๒ ปี ต้องอาบัติ ๑ อย่าง คือ อาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๑๐ ภิกษุณีบวชให้สหชีวินีแล้ว ไม่พาหลีกไป ไม่ให้พาหลีกไป ต้องอาบัติ ๑ อย่าง คือ อาบัติปาจิตตีย์คัพภินีวรรคที่ ๗ จบ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๐๓}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๘. กุมารีภูตวรรค
๘. กุมารีภูตวรรค สิกขาบทที่ ๑ [๒๓๘] ภิกษุณีบวชให้กุมารีมีอายุต่ำกว่า ๒๐ ปี ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๒ ภิกษุณีบวชให้กุมารีมีอายุครบ ๒๐ ปี แต่ยังไม่ได้ศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ข้อ ตลอด ๒ ปี ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๓ ภิกษุณีบวชให้กุมารีมีอายุครบ ๒๐ ปี ผู้ได้ศึกษาสิกขาในธรรม ๖ ข้อ ตลอด ๒ ปี แต่สงฆ์ยังไม่ได้สมมติ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๔ ภิกษุณีมีพรรษาต่ำกว่า ๑๒ บวชให้กุลธิดา ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๕ ภิกษุณีมีพรรษาครบ ๑๒ แต่สงฆ์ยังไม่ได้สมมติ บวชให้กุลธิดา ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๐๔}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๘. กุมารีภูตวรรค
๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๖ ภิกษุณีผู้อันสงฆ์กล่าวอยู่ว่า แม่เจ้า ท่านอย่าบวชให้กุลธิดาเลย รับคำแล้ว ภายหลังกลับบ่นว่า ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบ่นว่า ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบ่นว่าแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๗ ภิกษุณีกล่าวกับสิกขมานาว่า แม่คุณ ถ้าเธอจักให้จีวรแก่เรา เราก็จะบวช ให้เธอ แล้วไม่บวชให้ ไม่ขวนขวายใช้ให้บวชให้ ต้องอาบัติ ๑ อย่าง คือ อาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๘ ภิกษุณีกล่าวกับสิกขมานาว่า แม่คุณ ถ้าเธอจักติดตามเราตลอด ๒ ปี เราก็จะบวชให้เธอ แล้วไม่บวชให้ ไม่ขวนขวายใช้ให้บวชให้ ต้องอาบัติ ๑ อย่าง คือ อาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๙ ภิกษุณีบวชให้สิกขมานาผู้คลุกคลีกับชาย คลุกคลีกับเด็กหนุ่ม ดุร้าย ผู้ทำชาย ให้ระทมโศก ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๐๕}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๘. กุมารีภูตวรรค
สิกขาบทที่ ๑๐ ภิกษุณีบวชให้สิกขมานา ที่มารดาบิดาหรือสามียังไม่ได้อนุญาต ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๑๑ ภิกษุณีบวชให้สิกขมานาด้วยการให้ปาริวาสิกฉันทะ๑- ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๑๒ ภิกษุณีบวชให้สิกขมานาทุกๆ ปี ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๑๓ ภิกษุณีบวชให้สิกขมานา ๒ รูป ใน ๑ ปี ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังบวชให้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบวชให้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์กุมารีภูตวรรคที่ ๘ จบ @เชิงอรรถ : @๑ ดูรายละเอียดใน วิ.ภิกฺขุนี. (แปล) ๓/๑๑๖๖-๑๑๖๗/๓๕๑-๓๕๒ (เชิงอรรถ) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๐๖}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๔. ปาจิตติยกัณฑ์ ๙. ฉัตตุปาหนวรรค
๙. ฉัตตุปาหนวรรค สิกขาบทที่ ๑ [๒๓๙] ภิกษุณีกั้นร่มและสวมรองเท้า ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อใช้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๒ ภิกษุณีโดยสารยานพาหนะ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังโดยสารไป ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อโดยสารไปแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๓ ภิกษุณีใช้เครื่องประดับเอว ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อใช้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๔ ภิกษุณีใช้เครื่องประดับของสตรี ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังใช้ ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อใช้แล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๕ ภิกษุณีสรงสนานด้วยของหอมและเครื่องย้อมผิว ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังสรงสนาน ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อสรงสนานแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๐๗}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๕. ปาฏิเทสนิยกัณฑ์ ๙. ฉัตตุปาหนวรรค
สิกขาบทที่ ๖ ภิกษุณีสรงสนานด้วยแป้งอบกลิ่น ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังสรงสนาน ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อสรงสนานแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๗ ภิกษุณีใช้ภิกษุณีให้บีบนวด ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังให้บีบนวด ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบีบนวดแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๘ ภิกษุณีใช้สิกขมานาบีบนวด ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังให้บีบนวด ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบีบนวดแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๙ ภิกษุณีใช้สามเณรีบีบนวด ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังให้บีบนวด ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบีบนวดแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๑๐ ภิกษุณีใช้หญิงคฤหัสถ์บีบนวด ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังให้บีบนวด ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อบีบนวดแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๑๑ ภิกษุณีไม่ขอโอกาสก่อนแล้วนั่งบนอาสนะข้างหน้าภิกษุ ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๘ หน้า : ๓๐๘}
พระวินัยปิฎก ปริวาร [ภิกขุนีวิภังค์]
๒. กตาปัตติวาร ๕. ปาฏิเทสนิยกัณฑ์
๑. กำลังนั่ง ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อนั่งแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๑๒ ภิกษุณีถามปัญหาภิกษุที่ตนยังไม่ได้ขอโอกาส ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. กำลังถาม ต้องอาบัติทุกกฏ เพราะพยายาม ๒. เมื่อถามแล้ว ต้องอาบัติปาจิตตีย์สิกขาบทที่ ๑๓ ภิกษุณีไม่มีผ้ารัดถันเข้าไปสู่บ้าน ต้องอาบัติ ๒ อย่าง คือ ๑. ย่างเท้าก้าวที่ ๑ เข้าสู่เขตรั้ว ต้องอาบัติทุกกฏ ๒. ย่างเท้าก้าวที่ ๒ ต้องอาบัติปาจิตตีย์ฉัตตุปาหนวรรคที่ ๙ จบ ขุททกสิกขาบท จบ เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๘ หน้าที่ ๒๘๙-๓๐๙. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_siri.php?B=8&siri=52 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4]. อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=8&A=5169&Z=5408 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=8&i=675 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=8&item=675&items=94 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=8&item=675&items=94 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๘ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu8 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.2/en/brahmali#pli-tv-pvr2.2:30.0.1 https://suttacentral.net/pli-tv-pvr2.2/en/horner-brahmali#Prv.2.2:Bi-Pc.1
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
![]() |
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]