![]() |
|
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
![]() |
![]() |
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [๕. ปาจิตติยกัณฑ์]
๓. โอวาทวรรค ๒. อัตถังคตสิกขาบท นิทานวัตถุ
๓. โอวาทวรรค ๒. อัตถังคตสิกขาบท ว่าด้วยการสั่งสอนภิกษุณีในเวลาที่ดวงอาทิตย์อัสดงแล้ว เรื่องพระจูฬปันถก [๑๕๓] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อาราม ของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น พวกภิกษุผู้เป็นเถระผลัดเปลี่ยนกัน สั่งสอนพวกภิกษุณี ครั้งนั้น ถึงวาระที่ท่านพระจูฬปันถกจะสั่งสอนพวกภิกษุณี พวกภิกษุณี กล่าวกันอย่างนี้ว่า วันนี้เห็นทีการสั่งสอนจะไม่สัมฤทธิผล ประเดี๋ยวพระคุณเจ้า จูฬปันถกก็คงจะเปล่งอุทานซ้ำซากเหมือนเดิม ครั้นแล้วพวกภิกษุณีได้พากันไปหา พระจูฬปันถกถึงที่อยู่ ครั้นถึงแล้วได้ไหว้ท่านพระจูฬบันถกแล้วนั่ง ณ ที่สมควร ท่านพระจูฬปันถกได้กล่าวกับพวกภิกษุณีผู้นั่ง ณ ที่สมควรแล้วดังนี้ว่า น้องหญิงทั้งหลาย พวกเธอพร้อมเพรียงกันแล้วหรือ พวกภิกษุณีตอบว่า พวกดิฉันพร้อมเพรียงกันแล้ว เจ้าข้า พระจูฬปันถกถามว่า น้องหญิงทั้งหลาย ครุธรรม ๘ ข้อ ยังจำกันได้อยู่หรือ พวกภิกษุณีตอบว่า ยังจำกันได้อยู่ เจ้าข้า พระจูฬปันถกมอบหมายว่า น้องหญิงทั้งหลาย ธรรมนี่เป็นโอวาท แล้ว เปล่งอุทานซ้ำว่า มุนีผู้มีจิตมั่นคง ไม่ประมาท ศึกษาทางแห่งความเป็นมุนี๑- ผู้คงที่ สงบ มีสติทุกขณะ ย่อมเป็นผู้ไม่เศร้าโศก๒- @เชิงอรรถ : @๑ ทางแห่งความเป็นมุนี หมายถึงโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ หรือไตรสิกขา (วิ.อ. ๒/๑๕๓/๓๓๒) @๒ ขุ.ธ. ๒๕/๓๗/๑๕๒, ขุ.เถร. ๒๖/๖๘/๒๗๔ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒ หน้า : ๓๒๖}
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [๕. ปาจิตติยกัณฑ์]
๓. โอวาทวรรค ๒. อัตถังคตสิกขาบท นิทานวัตถุ
พวกภิกษุณีกล่าวอย่างนี้ว่า พวกเราได้กล่าวแล้วมิใช่หรือว่า วันนี้เห็นทีการ สั่งสอนจะไม่สัมฤทธิผล ประเดี๋ยวพระคุณเจ้าจูฬปันถกก็คงจะเปล่งอุทานซ้ำซาก เหมือนเดิม ท่านพระจูฬปันถกได้ยินคำสนทนานี้ของพวกภิกษุณีเหล่านั้นแล้ว จึงเหาะขึ้น ไปสู่อากาศ จงกรมบ้าง ยืนบ้าง นั่งบ้าง นอนบ้าง บันดาลให้ควันฟุ้งตลบบ้าง บันดาลให้ไฟโพลงบ้าง หายตัวบ้าง ในอากาศ เปล่งอุทานนั้นนั่นแหละ และกล่าว พระพุทธพจน์อื่นๆ เป็นอันมาก พวกภิกษุณีพากันกล่าวอย่างนี้ว่า น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมี การสั่งสอนก่อนหน้า นี้ไม่เคยสัมฤทธิผลแก่พวกเราเหมือนการสั่งสอนของพระคุณเจ้าจูฬปันถกเลย คราวนั้น ท่านพระจูฬปันถกสั่งสอนพวกภิกษุณีอยู่จนพลบค่ำแล้วส่งกลับด้วย กล่าวว่า พวกเธอกลับไปเถิด น้องหญิงทั้งหลาย ครั้งนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ปิดประตูเมืองแล้ว พวกภิกษุณีได้พักแรมอยู่นอกเมือง รุ่งเช้าจึงพากันเข้าเมือง พวกชาวบ้านตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ภิกษุณีพวกนี้เป็นผู้ไม่ประพฤติ พรหมจรรย์ พักแรมกับพวกภิกษุในอารามเพิ่งจะกลับเข้าเมืองเดี๋ยวนี้เอง พวกภิกษุได้ยินพวกชาวบ้านตำหนิ ประณาม โพนทะนา บรรดาภิกษุผู้มักน้อย ฯลฯ จึงตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า เมื่อดวงอาทิตย์อัสดงแล้ว ไฉนท่านพระ จูฬปันถกยังสั่งสอนพวกภิกษุณีอยู่เล่า ครั้นภิกษุเหล่านั้นตำหนิท่านพระจูฬบันถก โดยประการต่างๆ แล้วจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบทรงประชุมสงฆ์บัญญัติสิกขาบท ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรง สอบถามท่านพระจูฬปันถกว่า จูฬปันถก ทราบว่า เมื่อดวงอาทิตย์อัสดงแล้ว เธอ ยังสั่งสอนพวกภิกษุณีอยู่ จริงหรือ ท่านพระจูฬปันถกทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้า ข้า พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า ฯลฯ จูฬปันถก ไฉนเมื่อดวงอาทิตย์ อัสดงแล้ว เธอจึงยังสั่งสอนพวกภิกษุณีอยู่เล่า จูฬปันถก การกระทำอย่างนี้ มิได้ทำ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒ หน้า : ๓๒๗}
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [๕. ปาจิตติยกัณฑ์]
๓. โอวาทวรรค ๒. อัตถังคตสิกขาบท บทภาชนีย์
คนที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส ฯลฯ แล้วจึงรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายยกสิกขาบทนี้ขึ้น แสดงดังนี้พระบัญญัติ [๑๕๔] ถ้าภิกษุแม้ได้รับการแต่งตั้งแล้ว เมื่อดวงอาทิตย์อัสดงแล้ว ยัง สั่งสอนภิกษุณีทั้งหลายอยู่ ต้องอาบัติปาจิตตีย์เรื่องพระจูฬปันถก จบ สิกขาบทวิภังค์ [๑๕๕] ภิกษุที่ชื่อว่า ได้รับการแต่งตั้งแล้ว คือได้รับการแต่งตั้งด้วยญัตติ จตุตถกรรมวาจาแล้ว คำว่า เมื่อดวงอาทิตย์อัสดงแล้ว คือ เมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว ที่ชื่อว่า ภิกษุณีทั้งหลาย ได้แก่ มาตุคามผู้ที่อุปสมบทในสงฆ์ ๒ ฝ่าย คำว่า สั่งสอน ความว่า ภิกษุสั่งสอนครุธรรม ๘ อย่าง หรือธรรมอย่างอื่น ต้องอาบัติปาจิตตีย์บทภาชนีย์ ติกปาจิตตีย์ [๑๕๖] ดวงอาทิตย์อัสดงแล้ว ภิกษุสำคัญว่าอัสดงแล้ว สั่งสอน ต้องอาบัติ ปาจิตตีย์ ดวงอาทิตย์อัสดงแล้ว ภิกษุไม่แน่ใจ สั่งสอน ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ดวงอาทิตย์อัสดงแล้ว ภิกษุสำคัญว่ายังไม่อัสดง สั่งสอน ต้องอาบัติปาจิตตีย์ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒ หน้า : ๓๒๘}
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [๕. ปาจิตติยกัณฑ์]
๓. โอวาทวรรค ๒. อัตถังคตสิกขาบท อนาปัตติวาร
ติกทุกกฏ ภิกษุสั่งสอนภิกษุณีที่อุปสมบทในสงฆ์ฝ่ายเดียว ต้องอาบัติทุกกฏ ดวงอาทิตย์ยังไม่อัสดง ภิกษุสำคัญว่าอัสดงแล้ว สั่งสอน ต้องอาบัติทุกกฏ ดวงอาทิตย์ยังไม่อัสดง ภิกษุไม่แน่ใจ ต้องอาบัติทุกกฏ ดวงอาทิตย์ยังไม่อัสดง ภิกษุสำคัญว่ายังไม่อัสดง ไม่ต้องอาบัติอนาปัตติวาร ภิกษุต่อไปนี้ไม่ต้องอาบัติ คือ [๑๕๗] ๑. ภิกษุให้อุทเทส ๒. ภิกษุให้ปริปุจฉา ๓. ภิกษุที่ภิกษุณีกล่าวขอว่า นิมนต์พระคุณเจ้าสวดเถิด สวดอยู่ ๔. ภิกษุถามปัญหา ๕. ภิกษุถูกถามปัญหาแล้วตอบปัญหา ๖. ภิกษุสั่งสอนผู้อื่นแต่มีภิกษุณีฟังอยู่ด้วย ๗. ภิกษุสั่งสอนสิกขมานา ๘. ภิกษุสั่งสอนสามเณรี ๙. ภิกษุวิกลจริต ๑๐. ภิกษุต้นบัญญัติอัตถังคตสิกขาบทที่ ๒ จบ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒ หน้า : ๓๒๙}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๓๒๖-๓๒๙. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=2&siri=58 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=2&A=9508&Z=9579 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=2&i=424 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=2&item=424&items=5 อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=2&A=7821 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=2&item=424&items=5 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=2&A=7821 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu2 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/pli-tv-bu-vb-pc22/en/brahmali
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
![]() |
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]