![]() |
|
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
![]() |
![]() |
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบท ๑๓. โลกวรรค ๒. สุทโธทนวัตถุ
๑๓. โลกวรรค หมวดว่าด้วยเรื่องโลก ๑. ทหรภิกขุวัตถุ เรื่องภิกษุหนุ่ม (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง ดังนี้) [๑๖๗] บุคคลไม่พึงเสพสิ่งต่ำทราม๑- ไม่พึงอยู่ด้วยความประมาท ไม่พึงยึดถือความเห็นผิด ไม่พึงเป็นคนรกโลก๒. สุทโธทนวัตถุ เรื่องพระเจ้าสุทโธทนะ (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่พระเจ้าสุทโธทนะพระบิดาของพระองค์ ดังนี้) [๑๖๘] ภิกษุไม่พึงประมาทบิณฑบาตที่ตนยืนรับ๒- พึงประพฤติสุจริตธรรม๓- ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า [๑๖๙] พึงประพฤติสุจริตธรรม ไม่พึงประพฤติทุจริตธรรม ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า @เชิงอรรถ : @๑ สิ่งต่ำทราม ในที่นี้หมายถึงกามคุณ ๕ (ขุ.ธ.อ. ๖/๒๙) @๒ ไม่พึงประมาทบิณฑบาตที่ตนยืนรับ หมายถึงไม่พึงดูหมิ่นอาหารที่ต้องลุกขึ้นไปยืนรับตามลำดับตรอก @ไม่เลือกรับเฉพาะบ้าน (ขุ.ธ.อ. ๖/๓๒) @๓ สุจริตธรรม หมายถึงภิกขาจริยธรรม คือ การเที่ยวบิณฑบาตตามลำดับตรอก ซึ่งตรงกันข้ามกับทุจริต- @ธรรม คือ การเที่ยวบิณฑบาตในสถานที่อโคจร เช่น สถานที่ที่มีหญิงแพศยา เป็นต้น (ขุ.ธ.อ. ๖/๓๒) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๕ หน้า : ๘๕}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบท ๑๓. โลกวรรค ๕. สัมมัชชนเถรวัตถุ
๓. ปัญจสตวิปัสสกภิกขุวัตถุ เรื่องภิกษุผู้เจริญวิปัสสนา ๕๐๐ รูป (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุผู้เจริญวิปัสสนา ๕๐๐ รูป ดังนี้) [๑๗๐] มัจจุราชย่อมไม่เห็นบุคคลผู้พิจารณาเห็นโลก๑- เหมือนเห็นฟองน้ำ เหมือนเห็นพยับแดด๔. อภยราชกุมารวัตถุ เรื่องอภัยราชกุมาร (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่อภัยราชกุมาร ดังนี้) [๑๗๑] ท่านทั้งหลายจงมาดูโลกนี้๒- ที่วิจิตรดุจราชรถ ที่พวกคนเขลาหมกมุ่นอยู่ แต่พวกผู้รู้หาข้องอยู่ไม่๓-๕. สัมมัชชนเถรวัตถุ เรื่องพระสัมมัชชนเถระ (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้) [๑๗๒] ผู้ใดประมาทแล้วในกาลก่อน ภายหลังไม่ประมาท ผู้นั้นย่อมทำโลกนี้ให้สว่างไสว๔- ดุจดวงจันทร์พ้นจากเมฆ ฉะนั้น๕- @เชิงอรรถ : @๑ โลก หมายถึงโลกคือขันธ์ ๕ เป็นต้น (ขุ.ธ.อ. ๖/๓๔) @๒ ดูความหมายในเชิงอรรถที่ ๑ @๓ ข้องอยู่ หมายถึงติดอยู่ด้วยกิเลสมีราคะเป็นต้น (ขุ.ธ.อ. ๖/๓๕) @๔ ทำโลกนี้ให้สว่างไสว หมายถึงทำโลกคือขันธ์ ๕ เป็นต้น ให้สว่างด้วยมรรคญาณ (ขุ.ธ.อ. ๖/๓๗) @๕ ดูเทียบ ม.ม. (แปล) ๑๓/๓๕๒/๔๓๐, ขุ.เถร. (แปล) ๒๖/๘๗๑/๔๘๓ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๕ หน้า : ๘๖}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบท ๑๓. โลกวรรค ๘. ติงสภิกขุวัตถุ
๖. อังคุลิมาลเถรวัตถุ เรื่องพระองคุลิมาลเถระ (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้) [๑๗๓] บาปกรรมที่ทำไว้ ผู้ใดละเสียได้ด้วยกุศล๑- ผู้นั้นย่อมทำโลกนี้ให้สว่างไสว ดุจดวงจันทร์พ้นจากเมฆ ฉะนั้น๗. เปสการธีตาวัตถุ เรื่องธิดานายช่างหูก (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ธิดาของนายช่างหูก ดังนี้) [๑๗๔] โลกนี้มืดมน๒- คนในโลกนี้น้อยคนนักจักเห็นแจ้ง น้อยคนนักจักไปสวรรค์๓- เหมือนนกติดข่าย น้อยตัวนักที่จะพ้นจากข่าย ฉะนั้น๘. ติงสภิกขุวัตถุ เรื่องภิกษุ ๓๐ รูป (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่พระอานนทเถระ ดังนี้) [๑๗๕] ฝูงหงส์บินไปทางดวงอาทิตย์๔- ได้ ท่านที่เจริญอิทธิบาทดีแล้ว ไปทางอากาศด้วยฤทธิ์ได้ ส่วนนักปราชญ์ทั้งหลายชนะมารพร้อมทั้งพาหนะได้แล้ว ย่อมออกไปจากโลกได้๕- @เชิงอรรถ : @๑ กุศล ในที่นี้หมายถึงอรหัตตมรรค (ขุ.ธ.อ. ๖/๓๘) และดูเทียบ ม.ม. (แปล) ๑๓/๓๕๒/๔๓๐, @ขุ.เถร. (แปล) ๒๖/๘๗๒/๔๘๓ @๒ โลกนี้มืดมน หมายถึงโลกิยมหาชนในโลกนี้ เป็นผู้มืดบอด เพราะไม่มีปัญญาจักษุ (ขุ.ธ.อ. ๖/๔๓) @๓ หมายถึงมีน้อยคนที่จะเห็นแจ้งไตรลักษณ์ ที่จะไปสุคติภูมิ หรือที่จะบรรลุนิพพาน (ขุ.ธ.อ. ๖/๔๓) @๔ ทางดวงอาทิตย์ หมายถึงทางอากาศ (ขุ.ธ.อ. ๖/๔๕) @๕ ออกไปจากโลก ในที่นี้หมายถึงออกไปจากวัฏฏะ กล่าวคือบรรลุนิพพาน (ขุ.ธ.อ. ๖/๔๕) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๕ หน้า : ๘๗}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบท ๑๓. โลกวรรค ๑๑. อนาถปิณฑิกปุตตกาลวัตถุ
๙. จิญจมาณวิกาวัตถุ เรื่องนางจิญจมาณวิกา (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้) [๑๗๖] บุคคลผู้ล่วงละเมิดธรรมอย่างหนึ่ง๑- ผู้มักกล่าวเท็จ ปฏิเสธปรโลก จะไม่ทำบาปไม่มี๑๐. อสทิสทานวัตถุ เรื่องอสทิสทาน (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่พระเจ้าปเสนทิโกศลและเหล่าอำมาตย์ ดังนี้) [๑๗๗] พวกคนตระหนี่ไปเทวโลกไม่ได้เลย พวกคนพาลไม่สรรเสริญการให้ทาน ส่วนนักปราชญ์อนุโมทนาการให้ทาน เพราะเหตุนั้นแล เขาจึงได้รับสุขในปรโลก๑๑. อนาถปิณฑิกปุตตกาลวัตถุ เรื่องนายกาละบุตรของอนาถบิณฑิกเศรษฐี (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่อนาถบิณฑิกเศรษฐี ดังนี้) [๑๗๘] โสดาปัตติผลประเสริฐกว่าความเป็นเอกราชในแผ่นดิน กว่าการไปสู่สวรรค์ หรือกว่าความเป็นใหญ่ในโลกทั้งปวง๒-โลกวรรคที่ ๑๓ จบ @เชิงอรรถ : @๑ ธรรมอย่างหนึ่ง ในที่นี้หมายถึงสัจจะ (ขุ.ธ.อ. ๖/๕๐) @๒ ความเป็นเอกราชในแผ่นดิน การไปสู่สวรรค์ และความเป็นใหญ่ในโลก ยังไม่พ้นจากอบายภูมิมีนรกเป็นต้น @แต่โสดาปัตติผลเป็นธรรมปิดกั้นประตูอบายภูมิได้ (ขุ.ธ.อ. ๖/๕๙) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๕ หน้า : ๘๘}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๒๕ หน้าที่ ๘๕-๘๘. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=25&siri=22 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=25&A=721&Z=747 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=23 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=25&item=23&items=1 อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=23&A=542 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=25&item=23&items=1 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=23&A=542 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu25 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://84000.org/tipitaka/english/metta.lk/25i023-e1.php# https://84000.org/tipitaka/english/metta.lk/25i023-e2.php# https://accesstoinsight.org/tipitaka/kn/dhp/dhp.13.than.html https://accesstoinsight.org/tipitaka/kn/dhp/dhp.13.budd.html https://accesstoinsight.org/tipitaka/kn/dhp/dhp.13x.olen.html https://suttacentral.net/dhp167-178/en/anandajoti https://suttacentral.net/dhp167-178/en/buddharakkhita https://suttacentral.net/dhp167-178/en/sujato
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
![]() |
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]