บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
ฉบับหลวง ฉบับมหาจุฬาฯ บาลีอักษรไทย PaliRoman |
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๕. คุตติลวิมาน
๕. คุตติลวิมาน ว่าด้วยวิมานที่คุตติลาจารย์เคยไปเยี่ยม ๑. วัตถุตตมทายิกาวิมาน ว่าด้วยวิมานที่เกิดแก่หญิงผู้ถวายผ้าเนื้อดีเยี่ยม (พระโพธิสัตว์นามว่าคุตติละได้กราบทูลท้าวสักกเทวราชว่า) [๓๒๗] ข้าแต่ท้าวโกสีย์ ข้าพระองค์ได้สอนวิชาดีดพิณ ๗ สาย ซึ่งมีเสียงไพเราะมาก น่ารื่นรมย์ใจ ให้แก่มุสิละผู้เป็นศิษย์ เขาตั้งใจจะดีดพิณประชันกับข้าพระองค์กลางเวที ขอพระองค์จงทรงเป็นที่พึ่งของข้าพระองค์ด้วยเถิด (ท้าวสักกเทวราชตรัสปลอบด้วยคาถาว่า) [๓๒๘] ท่านอาจารย์ ข้าพเจ้าจะเป็นที่พึ่งของท่านอาจารย์ เพราะข้าพเจ้าเป็นผู้บูชาอาจารย์ ศิษย์จักชนะอาจารย์ไม่ได้ อาจารย์จักชนะศิษย์แน่นอน (ครั้นกาลต่อมา ท้าวสักกเทวราชรับสั่งให้มาตลีเทพสารถีนำเวชยันต์ราชรถ ลงมารับคุตติลาจารย์ไปยังเทวโลกเพื่อให้ดีดพิณถวาย คุตติลาจารย์จึงกราบทูล ท้าวเธอ ในท่ามกลางเทพบริษัท เพื่อขอไต่ถามถึงบุพกรรมของเทพธิดาทั้งหลาย ณ ที่นั้น เป็นรางวัลแห่งการดีดพิณเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงไต่ถามถึง บุพกรรมของเทพธิดาเหล่านั้น คำถามของคุตติลาจารย์เป็นเช่นเดียวกับของพระ มหาโมคคัลลานเถระ)๑- คำตอบของเหล่าเทพธิดาเป็นเช่นเดียวกันทั้งสองครั้ง [๓๒๙] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก @เชิงอรรถ : @๑ (ขุ.วิ.อ. ๓๒๘/๑๕๘-๑๖๐) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๕๓}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๕. คุตติลวิมาน
[๓๓๐] เพราะบุญอะไรผิวพรรณเธอจึงงามเช่นนี้ ผลอันพึงปรารถนาจึงสำเร็จแก่เธอในวิมานนี้ และโภคะทั้งมวลล้วนน่าพอใจจึงเกิดขึ้นแก่เธอ [๓๓๑] เทพธิดาผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามว่า เมื่อเธอเกิดเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไรเธอจึงมีอานุภาพรุ่งเรือง และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ [๓๓๒] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า [๓๓๓] นารีผู้ถวายผ้าเนื้อดีเยี่ยม เป็นผู้ประเสริฐในหมู่นระและนารีทั้งหลาย นางตั้งใจถวายสิ่งที่น่ารัก จึงได้ทิพยสถานที่น่าเจริญใจเห็นปานนี้ [๓๓๔] ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูวิมานของดิฉันนั้นเถิด ดิฉันเป็นนางอัปสรผู้มีรูปร่างและผิวพรรณน่ารักใคร่ ทั้งยังเลอเลิศกว่านางอัปสรนับพันอีกด้วย ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูผลของบุญทั้งหลายเถิด [๓๓๕] เพราะบุญนั้นผิวพรรณดิฉันจึงงามเช่นนี้ ผลอันพึงปรารถนาจึงสำเร็จแก่ดิฉันในวิมานนี้ และโภคะทั้งมวลล้วนน่าพอใจจึงเกิดขึ้นแก่ดิฉัน [๓๓๖] ข้าแต่ภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ดิฉันขอกราบเรียนว่า เพราะบุญที่ได้ทำไว้เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ดิฉันจึงมีอานุภาพรุ่งเรือง และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ (วิมาน ๔ เรื่องที่จะกล่าวต่อไปนี้มีความพิสดารเหมือนวัตถุตตมทายิกาวิมาน) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๕๔}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๒. ปุปผุตตมทายิกาวิมาน (๑)
๒. ปุปผุตตมทายิกาวิมาน (๑) ว่าด้วยวิมานที่เกิดแก่หญิงผู้ถวายดอกไม้ที่ดีเยี่ยม (พระมหาโมคคัลลานเถระถามว่า) [๓๓๗] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก [๓๓๘] เพราะบุญอะไรผิวพรรณเธอจึงงามเช่นนี้ ผลอันพึงปรารถนาจึงสำเร็จแก่เธอในวิมานนี้ และโภคะทั้งมวลล้วนน่าพอใจจึงเกิดขึ้นแก่เธอ [๓๓๙] เทพธิดาผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามว่า เมื่อเธอเกิดเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไรเธอจึงมีอานุภาพรุ่งเรือง และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ [๓๔๐] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า [๓๔๑] นารีผู้ถวายดอกไม้ชั้นดีเยี่ยม เป็นผู้ประเสริฐในหมู่นระและนารีทั้งหลาย นางตั้งใจถวายสิ่งที่น่ารัก จึงได้ทิพยสถานที่น่าเจริญใจเห็นปานนี้ [๓๔๒] ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูวิมานของดิฉันนั้น ดิฉันเป็นนางอัปสรผู้มีรูปร่างและผิวพรรณน่ารักใคร่ ทั้งยังเลอเลิศกว่านางอัปสรนับพันอีกด้วย ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูผลของบุญทั้งหลายเถิด [๓๔๓] เพราะบุญนั้นผิวพรรณดิฉันจึงงามเช่นนี้ ผลอันพึงปรารถนาจึงสำเร็จแก่ดิฉันในวิมานนี้ และโภคะทั้งมวลล้วนน่าพอใจจึงเกิดขึ้นแก่ดิฉัน {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๕๕}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๓. คันธุตตมทายิกาวิมาน (๒)
[๓๔๔] ข้าแต่ภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ดิฉันขอกราบเรียนว่า เพราะบุญที่ได้ทำไว้เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ดิฉันจึงมีอานุภาพรุ่งเรือง และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้๓. คันธุตตมทายิกาวิมาน (๒) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายของหอมชั้นเยี่ยม (พระมหาโมคคัลลานเถระถามว่า) [๓๔๕] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก [๓๔๖] เพราะบุญอะไรผิวพรรณเธอจึงงามเช่นนี้ ผลอันพึงปรารถนาจึงสำเร็จแก่เธอในวิมานนี้ และโภคะทั้งมวลล้วนน่าพอใจจึงเกิดขึ้นแก่เธอ [๓๔๗] เทพธิดาผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามว่า เมื่อเธอเกิดเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไรเธอจึงมีอานุภาพรุ่งเรือง และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ [๓๔๘] เทพธิดานั้นดีใจที่พระโมคคัลลานเถระถาม จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า [๓๔๙] นารีผู้ถวายของหอมชั้นเลิศ เป็นผู้ประเสริฐในหมู่นระและนารีทั้งหลาย นางตั้งใจถวายสิ่งที่น่ารัก จึงได้ทิพยสถานที่น่าเจริญใจเห็นปานนี้ [๓๕๐] ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูวิมานของดิฉันนั้น ดิฉันเป็นนางอัปสรผู้มีรูปร่างและผิวพรรณน่ารักใคร่ ทั้งยังเลอเลิศกว่านางอัปสรนับพันอีกด้วย ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูผลของบุญทั้งหลายเถิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๕๖}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๔. ผลุตตมทายิกาวิมาน (๓)
[๓๕๑] เพราะบุญนั้นผิวพรรณดิฉันจึงงามเช่นนี้ ผลอันพึงปรารถนาจึงสำเร็จแก่ดิฉันในวิมานนี้ และโภคะทั้งมวลล้วนน่าพอใจจึงเกิดขึ้นแก่ดิฉัน [๓๕๒] ข้าแต่ภิกษุผู้มีอานุภาพมาก ดิฉันขอกราบเรียนว่า เพราะบุญที่ได้ทำไว้เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ดิฉันจึงมีอานุภาพรุ่งเรือง และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้๔. ผลุตตมทายิกาวิมาน (๓) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายผลไม้อย่างดีเยี่ยม (พระมหาโมคคัลลานเถระถามว่า) [๓๕๓] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก [๓๕๔-๓๕๕] เพราะบุญอะไรผิวพรรณเธอจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ [๓๕๖] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า [๓๕๗] นารีผู้ได้ถวายผลไม้อย่างดีเยี่ยม เป็นผู้ประเสริฐในหมู่นระและนารีทั้งหลาย นางตั้งใจถวายสิ่งที่น่ารัก จึงได้ทิพยสถานที่น่าเจริญใจเช่นนี้ [๓๕๘] ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูวิมานของดิฉันนั้น ดิฉันเป็นนางอัปสรผู้มีรูปร่างและผิวพรรณน่ารักใคร่ ทั้งยังเลอเลิศกว่านางอัปสรนับพันอีกด้วย ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูผลของบุญทั้งหลายเถิด [๓๕๙-๓๖๐] เพราะบุญนั้นดิฉันจึงมีผิวพรรณงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๕๗}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๖. คันธปัญจังคุลิกทายิกาวิมาน
๕. รสุตตมทายิกาวิมาน (๔) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายอาหารที่มีรสเลิศ (พระมหาโมคคัลลานเถระถามว่า) [๓๖๑] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก [๓๖๒-๓๖๓] เพราะบุญอะไรผิวพรรณเธอจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ [๓๖๔] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า [๓๖๕] นารีผู้ถวายอาหารเลิศรส เป็นผู้ประเสริฐในหมู่นระและนารีทั้งหลาย นางตั้งใจถวายสิ่งที่น่ารัก จึงได้ทิพยสถานที่น่าเจริญใจเช่นนี้ [๓๖๖] ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูวิมานของดิฉันนั้น ดิฉันเป็นนางอัปสรผู้มีรูปร่างและผิวพรรณน่ารักใคร่ ทั้งยังเลอเลิศกว่านางอัปสรนับพันอีกด้วย ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูผลของบุญทั้งหลายเถิด [๓๖๗-๓๖๘] เพราะบุญนั้นผิวพรรณดิฉันจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้๖. คันธปัญจังคุลิกทายิกาวิมาน ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้เคยใช้แป้งเจิมสถูป (พระมหาโมคคัลลานเถระถามว่า) [๓๖๙] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๕๘}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๗. เอกูโปสถวิมาน (๑)
[๓๗๐-๓๗๑] เพราะบุญอะไรผิวพรรณเธอจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ [๓๗๒] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า [๓๗๓] ดิฉันใช้นิ้วทั้งห้าจุ่มกระแจะเจิมที่พระสถูป(ทอง) ของพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสปะ ดิฉันนั้นตั้งใจถวายสิ่งที่น่ารัก จึงได้ทิพยสถานที่น่าเจริญใจเช่นนี้ [๓๗๔] ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูวิมานของดิฉันนั้น ดิฉันเป็นนางอัปสรผู้มีรูปร่างและผิวพรรณน่ารักใคร่ ทั้งยังเลอเลิศกว่านางอัปสรนับพันอีกด้วย ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูผลของบุญทั้งหลายเถิด [๓๗๕-๓๗๖] เพราะบุญนั้นผิวพรรณดิฉันจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ (วิมาน ๔ เรื่องที่จะกล่าวต่อไปนี้ มีความพิสดารเหมือนคันธปัญจังคุลิกทายิกาวิมาน)๗. เอกูโปสถวิมาน (๑) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้รักษาอุโบสถ ๑ วัน (พระมหาโมคคัลลานเถระถามว่า) [๓๗๗-๓๗๙] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ [๓๘๐] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๕๙}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๘. อุทกทายิกาวิมาน (๒)
[๓๘๑] ดิฉันได้เห็นภิกษุและภิกษุณีทั้งหลายกำลังเดินทาง ได้ฟังธรรมเทศนาของท่านเหล่านั้นแล้ว ได้เข้าจำอุโบสถศีลหนึ่งวัน [๓๘๒] ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูวิมานของดิฉันนั้น ดิฉันเป็นนางอัปสรผู้มีรูปร่างและผิวพรรณน่ารักใคร่ ทั้งยังเลอเลิศกว่านางอัปสรนับพันอีกด้วย ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูผลของบุญทั้งหลายเถิด [๓๘๓-๓๘๔] เพราะบุญนั้นผิวพรรณดิฉันจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้๘. อุทกทายิกาวิมาน (๒) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายน้ำบ้วนปากและน้ำดื่ม (พระมหาโมคคัลลานเถระถามว่า) [๓๘๕] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก [๓๘๖-๓๘๗] เพราะบุญอะไรผิวพรรณเธอจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ [๓๘๘] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า [๓๘๙] ดิฉันยืนอยู่ในน้ำ มีจิตเลื่อมใส ได้ถวายน้ำแด่ภิกษุรูปหนึ่ง ดิฉันนั้นตั้งใจถวายสิ่งที่น่ารัก จึงได้ทิพยสถานที่น่าเจริญใจเช่นนี้ [๓๙๐] ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูวิมานของดิฉันนั้น ดิฉันเป็นนางอัปสรผู้มีรูปร่างและผิวพรรณน่ารักใคร่ ทั้งยังเลอเลิศกว่านางอัปสรนับพันอีกด้วย ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูผลของบุญทั้งหลายเถิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๖๐}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๑๐. อปรกัมมการินีวิมาน (๔)
[๓๙๑-๓๙๒] เพราะบุญนั้นผิวพรรณดิฉันจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้๙. อุปัฏฐานวิมาน (๓) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ตั้งใจปฏิบัติมารดาบิดาของสามี (พระมหาโมคคัลลานเถระถามว่า) [๓๙๓] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก [๓๙๔-๓๙๕] เพราะบุญอะไรผิวพรรณเธอจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ [๓๙๖] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า [๓๙๗] ดิฉันมีนิสัยไม่ริษยา ตั้งใจปฏิบัติแม่ผัวและพ่อผัว ซึ่งทั้งดุร้าย โกรธง่ายและหยาบคาย จึงเป็นผู้ไม่ประมาทตามปกตินิสัยของตน [๓๙๘] ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูวิมานของดิฉันนั้น ดิฉันเป็นนางอัปสรผู้มีรูปร่างและผิวพรรณน่ารักใคร่ ทั้งยังเลอเลิศกว่านางอัปสรนับพันอีกด้วย ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูผลของบุญทั้งหลายเถิด [๓๙๙-๔๐๐] เพราะบุญนั้นผิวพรรณดิฉันจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้๑๐. อปรกัมมการินีวิมาน (๔) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ขวนขวายช่วยเหลือผู้อื่น (พระมหาโมคคัลลานเถระถามว่า) [๔๐๑] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๖๑}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๑๑. ขีโรทนทายิกาวิมาน
[๔๐๒-๔๐๓] เพราะบุญอะไรผิวพรรณเธอจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ [๔๐๔] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า [๔๐๕] ดิฉันเป็นคนใช้ รับภาระช่วยทำงานให้คนอื่นเสมอ ไม่เกียจคร้านต่อการงานที่เป็นประโยชน์ มีปกตินิสัยไม่มักโกรธ ไม่ดูหมิ่นผู้อื่น ชอบแบ่งปันสิ่งของส่วนตัวแก่ผู้อื่น [๔๐๖] ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูวิมานของดิฉันนั้น ดิฉันเป็นนางอัปสรผู้มีรูปร่างและผิวพรรณน่ารักใคร่ ทั้งยังเลอเลิศกว่านางอัปสรนับพันอีกด้วย ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูผลของบุญทั้งหลายเถิด [๔๐๗-๔๐๘] เพราะบุญนั้นผิวพรรณดิฉันจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้๑๑. ขีโรทนทายิกาวิมาน ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายข้าวผสมนมสด (พระมหาโมคคัลลานเถระถามว่า) [๔๐๙] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก [๔๑๐-๔๑๑] เพราะบุญอะไรผิวพรรณเธอจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ [๔๑๒] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๖๒}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๑๓. อุจฉุขัณฑิกทายิกาวิมาน (๒)
[๔๑๓] ดิฉันได้ถวายข้าวสุกผสมนมสด แด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ครั้นทำกรรมอย่างนี้แล้ว จึงเกิดในสุคติ ร่าเริงบันเทิงใจอยู่ [๔๑๔] ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูวิมานของดิฉันนั้น ดิฉันเป็นนางอัปสรผู้มีรูปร่างและผิวพรรณน่ารักใคร่ ทั้งยังเลอเลิศกว่านางอัปสรนับพันอีกด้วย ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูผลของบุญทั้งหลายเถิด [๔๑๕-๔๑๖] เพราะบุญนั้นผิวพรรณดิฉันจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ (วิมาน ๒๕ เรื่อง ที่จะกล่าวต่อไปนี้ มีความพิสดารเหมือนขีโรทนทายิกาวิมาน)๑๒. ผาณิตทายิกาวิมาน (๑) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายน้ำอ้อยงบ (พระมหาโมคคัลลานเถระถามว่า) [๔๑๗-๔๑๙] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก ฯลฯ เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ [๔๒๐] เทพธิดานั้นดีใจที่พระมหาโมคคัลลานเถระถาม จึงตอบปัญหาผลกรรมไปตามที่พระเถระถามว่า [๔๒๑-๔๒๘] ดิฉันได้ถวายน้ำอ้อยงบแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๑๓. อุจฉุขัณฑิกทายิกาวิมาน (๒) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายท่อนอ้อย [๔๒๙-๔๓๖] ดิฉันได้ถวายท่อนอ้อยแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๖๓}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๒๐. สากมุฏฐิทายิกาวิมาน (๙)
๑๔. ติมพรุสกทายิกาวิมาน (๓) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายผลมะพลับสุก [๔๓๗-๔๔๔] ดิฉันได้ถวายผลมะพลับสุกแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๑๕. กักการิกทายิกาวิมาน (๔) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายผลแตงกวา [๔๔๕-๔๕๒] ดิฉันได้ถวายผลแตงกวาแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๑๖. เอฬาลุกทายิกาวิมาน (๕) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายฟักทอง [๔๕๓-๔๖๐] ดิฉันได้ถวายผลฟักทองแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๑๗. วัลลิผลทายิกาวิมาน (๖) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายแตงโม [๔๖๑-๔๖๘] ดิฉันได้ถวายผลแตงโมแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๑๘. ผารุสกทายิกาวิมาน (๗) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายผลลิ้นจี่ [๔๖๙-๔๗๖] ดิฉันได้ถวายผลลิ้นจี่แด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๑๙. หัตถัปปตาปกทายิกาวิมาน (๘) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายเตาผิง [๔๗๗-๔๘๔] ดิฉันได้ถวายเตาผิงแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๒๐. สากมุฏฐิทายิกาวิมาน (๙) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายผักดอง [๔๘๕-๔๙๒] ดิฉันได้ถวายผักดองกำมือหนึ่งแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๖๔}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๒๗. อังสพัทธกทายิกาวิมาน (๑๖)
๒๑. ปุปผกมุฏฐิทายิกาวิมาน (๑๐) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายดอกไม้ [๔๙๓-๕๐๐] ดิฉันได้ถวายดอกไม้กำหนึ่งแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๒๒. มูลกทายิกาวิมาน (๑๑) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายหัวมัน [๕๐๑-๕๐๘] ดิฉันได้ถวายหัวมันแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๒๓. นิมพมุฏฐิทายิกาวิมาน (๑๒) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายผักสะเดา [๕๐๙-๕๑๖] ดิฉันได้ถวายสะเดากำหนึ่งแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๒๔. อัมพกัญชิกทายิกาวิมาน (๑๓) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายน้ำผักดอง [๕๑๗-๕๒๔] ดิฉันได้ถวายน้ำผักดองแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๒๕. โทณินิมมัชชนิทายิกาวิมาน (๑๔) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายแป้งคลุกงาทอด [๕๒๕-๕๓๒] ดิฉันได้ถวายแป้งคลุกงาทอดแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๒๖. กายพันธนทายิกาวิมาน (๑๕) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายประคดเอว [๕๓๓-๕๔๐] ดิฉันได้ถวายประคดเอวแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๒๗. อังสพัทธกทายิกาวิมาน (๑๖) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายผ้าอังสะ [๕๔๑-๕๔๘] ดิฉันได้ถวายผ้าอังสะแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๖๕}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๓๔. ปูวทายิกาวิมาน (๒๓)
๒๘. อาโยคปัฏฏทายิกาวิมาน (๑๗) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายสายโยคบาตร [๕๔๙-๕๕๖] ดิฉันได้ถวายแผ่นผ้าสายโยคแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๒๙. วิธูปนทายิกาวิมาน (๑๘) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายพัดสี่เหลี่ยม [๕๕๗-๕๖๔] ดิฉันได้ถวายพัดสี่เหลี่ยมแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๓๐. ตาลปัณณทายิกาวิมาน (๑๙) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายพัดใบตาล [๕๖๕-๕๗๒] ดิฉันได้ถวายพัดใบตาลแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๓๑. โมรหัตถทายิกาวิมาน (๒๐) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายพัดปัดยุง [๕๗๓-๕๘๐] ดิฉันได้ถวายพัดปัดยุงที่ทำด้วยขนนกยูงแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๓๒. ฉัตตทายิกาวิมาน (๒๑) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายร่ม [๕๘๑-๕๘๘] ดิฉันได้ถวายร่มแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๓๓. อุปาหนทายิกาวิมาน (๒๒) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายรองเท้า [๕๘๙-๕๙๖] ดิฉันได้ถวายรองเท้าแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๓๔. ปูวทายิกาวิมาน (๒๓) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายขนม [๕๙๗-๖๐๔] ดิฉันได้ถวายขนมแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๖๖}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [๑. อิตถีวิมาน]
๓. ปาริจฉัตตวรรค ๓๖. สักขลิกาทายิกาวิมาน (๒๕)
๓๕. โมทกทายิกาวิมาน (๒๔) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายขนมต้ม [๖๐๕-๖๑๒] ดิฉันได้ถวายขนมต้มแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ๓๖. สักขลิกาทายิกาวิมาน (๒๕) ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้ถวายน้ำตาลกรวด [๖๑๓] ดิฉันได้ถวายน้ำตาลกรวดแด่ภิกษุผู้กำลังเที่ยวบิณฑบาต ฯลฯ [๖๑๔] ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูวิมานของดิฉันนั้น ดิฉันเป็นนางอัปสรผู้มีรูปร่างและผิวพรรณน่ารักใคร่ ทั้งยังเลอเลิศกว่านางอัปสรนับพันอีกด้วย ขอนิมนต์พระคุณเจ้าดูผลของบุญทั้งหลายเถิด [๖๑๕-๖๑๖] เพราะบุญนั้นผิวพรรณดิฉันจึงงามเช่นนี้ ฯลฯ และมีรัศมีสว่างไสวทั่วทุกทิศอย่างนี้ (เมื่อเทพธิดาเหล่านั้นตอบปัญหาผลกรรมที่ได้ทำมาเป็นอันดีอย่างนี้แล้ว คุตติลาจารย์ก็ร่าเริงบันเทิงใจ เมื่อจะแสดงความชื่นชมยินดีของตนจึงกล่าวว่า) [๖๑๗] ดีจริงหนอที่ข้าพเจ้าได้มาในที่นี้ วันนี้ฤกษ์งามยามดี เพราะข้าพเจ้าได้มาเห็นเทพอัปสร ซึ่งมีรูปร่างและผิวพรรณที่น่ารักใคร่ [๖๑๘] ข้าพเจ้าได้ฟังเรื่องกุศลธรรมของพวกเธอ จักทำบุญกุศลให้มากด้วยการให้ทาน การประพฤติธรรมสม่ำเสมอ การสำรวมและการฝึกอินทรีย์ ข้าพเจ้านั้นจักไปสถานที่ ที่คนทั้งหลายไปแล้วไม่เศร้าโศกคุตติลวิมานที่ ๕ จบ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๖ หน้า : ๖๗}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๒๖ หน้าที่ ๕๓-๖๗. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=26&siri=33 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5]. อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=26&A=952&Z=1170 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=33 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=26&item=33&items=1 อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=30&A=3304 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=26&item=33&items=1 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=30&A=3304 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu26
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]