ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ
     ฉบับหลวง   ฉบับมหาจุฬาฯ   บาลีอักษรไทย   PaliRoman 
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๒ [ฉบับมหาจุฬาฯ] วิภังคปกรณ์
๓. สัญญาขันธ์
ทุกมูลกวาร
[๖๒] บรรดาขันธ์ ๕ นั้น สัญญาขันธ์ เป็นไฉน สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่มีเหตุก็มี ที่ไม่มีเหตุก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นกุศลก็มี ที่เป็นอกุศลก็มี ที่เป็นอัพยากฤตก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๔ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นกามาวจรก็มี ที่เป็นรูปาวจร ก็มี ที่เป็นอรูปาวจรก็มี ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๕ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขินทรีย์ก็มี ที่สัมปยุตด้วยทุกขินทรีย์ก็มี ที่สัมปยุตด้วยโสมนัสสินทรีย์ก็มี ที่สัมปยุตด้วย โทมนัสสินทรีย์ก็มี ที่สัมปยุตด้วยอุเปกขินทรีย์ก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๕ มีด้วยอาการอย่างนี้ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๔๒}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

สัญญาขันธ์หมวดละ ๖ ได้แก่ สัญญาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่ โสตสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่ฆานสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่ชิวหาสัมผัส สัญญาที่เกิด แต่กายสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่มโนสัมผัส สัญญาขันธ์หมวดละ ๖ มีด้วยอาการอย่างนี้ สัญญาขันธ์หมวดละ ๗ ได้แก่ สัญญาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ สัญญา ที่เกิดแต่กายสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่มโนธาตุสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่มโนวิญญาณ- ธาตุสัมผัส สัญญาขันธ์หมวดละ ๗ มีด้วยอาการอย่างนี้ สัญญาขันธ์หมวดละ ๘ ได้แก่ สัญญาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ สัญญา ที่เกิดแต่กายสัมผัส ที่สหรคตด้วยสุขก็มี ที่สหรคตด้วยทุกข์ก็มี สัญญาที่เกิดแต่ มโนธาตุสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่มโนวิญญาณธาตุสัมผัส สัญญาขันธ์หมวดละ ๘ มีด้วยอาการอย่างนี้ สัญญาขันธ์หมวดละ ๙ ได้แก่ สัญญาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ สัญญา ที่เกิดแต่กายสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่มโนธาตุสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่มโนวิญญาณ- ธาตุสัมผัส ที่เป็นกุศลก็มี ที่เป็นอกุศลก็มี ที่เป็นอัพยากฤตก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๙ มีด้วยอาการอย่างนี้ สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ ได้แก่ สัญญาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ สัญญา ที่เกิดแต่กายสัมผัส ที่สหรคตด้วยสุขก็มี ที่สหรคตด้วยทุกข์ก็มี สัญญาที่เกิดแต่ มโนธาตุสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่มโนวิญญาณธาตุสัมผัส ที่เป็นกุศลก็มี ที่เป็น อกุศลก็มี ที่เป็นอัพยากฤตก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๖๓] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่มีเหตุก็มี ที่ไม่มีเหตุก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี ที่ สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๔๓}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

สัญญาขันธ์ที่เป็นวิบากก็มี ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี๑- ที่ไม่เป็นวิบากและ ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี สัญญาขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ อุปาทานก็มี ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ อุปาทานก็มี ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ อุปาทานก็มี สัญญาขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่กิเลสไม่ ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็น อารมณ์ของกิเลสก็มี สัญญาขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารก็มี ที่ไม่มีทั้งวิตก และวิจารก็มี สัญญาขันธ์ที่สหรคตด้วยปีติก็มี ที่สหรคตด้วยสุขก็มี ที่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี สัญญาขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี ที่ต้องประหาณด้วยมรรค เบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี สัญญาขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี ที่มีเหตุต้องประหาณ ด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรค เบื้องบน ๓ ก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิและจุติก็มี ที่เป็นเหตุให้ถึงนิพพานก็มี ที่ไม่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิ จุติ และนิพพานก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นของเสขบุคคลก็มี ที่เป็นของอเสขบุคคลก็มี ที่ไม่เป็นของ เสขบุคคลและอเสขบุคคลก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นปริตตะก็มี ที่เป็นมหัคคตะก็มี ที่เป็นอัปปมาณะก็มี สัญญาขันธ์ที่มีปริตตะเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีมหัคคตะเป็นอารมณ์ก็มี ที่มี อัปปมาณะเป็นอารมณ์ก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นชั้นต่ำก็มี ที่เป็นชั้นกลางก็มี ที่เป็นชั้นประณีตก็มี @เชิงอรรถ : @ ตรงกับคำบาลีว่า วิปากธมฺมธมฺมา (อภิ.สงฺ.อ. ๓/๘๙) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๔๔}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

สัญญาขันธ์ที่มีสภาวะผิดและให้ผลแน่นอนก็มี ที่มีสภาวะชอบและให้ผลแน่นอน ก็มี ที่ไม่แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้นก็มี สัญญาขันธ์ที่มีมรรคเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีมรรคเป็นเหตุก็มี ที่มีมรรคเป็นอธิบดีก็มี สัญญาขันธ์ที่เกิดขึ้นก็มี ที่ยังไม่เกิดขึ้นก็มี ที่จักเกิดขึ้นแน่นอนก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นอดีตก็มี ที่เป็นอนาคตก็มี ที่เป็นปัจจุบันก็มี สัญญาขันธ์ที่มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี ที่มี ปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นภายในตนก็มี ที่เป็นภายนอกตนก็มี ที่เป็นภายในตนและ ภายนอกตนก็มี สัญญาขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายนอกตนเป็น อารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี ฯลฯ สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๖๔] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่มีเหตุก็มี ที่ไม่มีเหตุก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นวิบากก็มี ที่เป็นเหตุให้เกิด วิบากก็มี ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี สัญญาขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ อุปาทานก็มี ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ อุปาทานก็มี ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ อุปาทานก็มี สัญญาขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่กิเลสไม่ ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็น อารมณ์ของกิเลสก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๔๕}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

สัญญาขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี ที่ไม่มีวิตกมีเพียงวิจารก็มี ที่ไม่มีทั้งวิตก และวิจารก็มี สัญญาขันธ์ที่สหรคตด้วยปีติก็มี ที่สหรคตด้วยสุขก็มี ที่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี สัญญาขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี ที่ต้องประหาณด้วยมรรค เบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี สัญญาขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี ที่มีเหตุต้องประหาณ ด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรค เบื้องบน ๓ ก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิและจุติก็มี ที่เป็นเหตุให้ถึงนิพพานก็มี ที่ไม่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิ จุติ และนิพพานก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นของเสขบุคคลก็มี ที่เป็นของอเสขบุคคลก็มี ที่ไม่เป็นของ เสขบุคคลและอเสขบุคคลก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นปริตตะก็มี ที่เป็นมหัคคตะก็มี ที่เป็นอัปปมาณะก็มี สัญญาขันธ์ที่มีปริตตะเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีมหัคคตะเป็นอารมณ์ก็มี ที่มี อัปปมาณะเป็นอารมณ์ก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นชั้นต่ำก็มี ที่เป็นชั้นกลางก็มี ที่เป็นชั้นประณีตก็มี สัญญาขันธ์ที่มีสภาวะผิดและให้ผลแน่นอนก็มี ที่มีสภาวะชอบและให้ผลแน่ ่นอนก็มี ที่ไม่แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้นก็มี สัญญาขันธ์ที่มีมรรคเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีมรรคเป็นเหตุก็มี ที่มีมรรคเป็นอธิบดีก็มี สัญญาขันธ์ที่เกิดขึ้นก็มี ที่ยังไม่เกิดขึ้นก็มี ที่จักเกิดขึ้นแน่นอนก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นอดีตก็มี ที่เป็นอนาคตก็มี ที่เป็นปัจจุบันก็มี สัญญาขันธ์ที่มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นภายในตนก็มี ที่เป็นภายนอกตนก็มี ที่เป็นภายในตนและ ภายนอกตนก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๔๖}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

สัญญาขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายนอกตนเป็น อารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๖๕] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยเหตุก็มี ที่วิปปยุต จากเหตุก็มี สัญญาขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุก็มี ที่ไม่เป็นเหตุและไม่มีเหตุก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นโลกิยะก็มี ที่เป็นโลกุตตระก็มี สัญญาขันธ์ที่จิตบางดวงรู้ได้ก็มี ที่จิตบางดวงรู้ไม่ได้ก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอาสวะก็มี ที่วิปปยุตจากอาสวะก็มี สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี ที่วิปปยุตจาก อาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์ก็มี ที่วิปปยุตจากสังโยชน์ก็มี สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากสังโยชน์แต่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี ที่วิปปยุตจาก สังโยชน์และไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยคันถะก็มี ที่วิปปยุตจากคันถะก็มี สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากคันถะแต่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี ที่วิปปยุตจาก คันถะและไม่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของโอฆะก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของโอฆะก็มี สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยโอฆะก็มี ที่วิปปยุตจากโอฆะก็มี สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากโอฆะแต่เป็นอารมณ์ของโอฆะก็มี ที่วิปปยุตจากโอฆะ และไม่เป็นอารมณ์ของโอฆะก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๔๗}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของโยคะก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของโยคะก็มี สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยโยคะก็มี ที่วิปปยุตจากโยคะก็มี สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากโยคะแต่เป็นอารมณ์ของโยคะก็มี ที่วิปปยุตจากโยคะ และไม่เป็นอารมณ์ของโยคะก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยนิวรณ์ก็มี ที่วิปปยุตจากนิวรณ์ก็มี สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากนิวรณ์แต่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี ที่วิปปยุตจาก นิวรณ์และไม่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยปรามาสก็มี ที่วิปปยุตจากปรามาสก็มี สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากปรามาสแต่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี ที่วิปปยุต จากปรามาสและไม่เป็นอารมณ์ของปรามาสก็มี สัญญาขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือก็มี ที่กรรมอัน ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอุปาทานก็มี ที่วิปปยุตจากอุปาทานก็มี สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากอุปาทานแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี ที่วิปปยุต จากอุปาทานและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่ไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี สัญญาขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองก็มี ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองก็มี สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยกิเลสก็มี ที่วิปปยุตจากกิเลสก็มี สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากกิเลสแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่วิปปยุตจาก กิเลสและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี สัญญาขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี ที่ไม่ต้องประหาณด้วย โสดาปัตติมรรคก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๔๘}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

สัญญาขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่ต้องประหาณด้วย มรรคเบื้องบน ๓ ก็มี สัญญาขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี ที่ไม่มีเหตุต้อง ประหาณด้วยโสดาปัตติมรรคก็มี สัญญาขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่มีเหตุต้อง ประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี สัญญาขันธ์ที่มีวิตกก็มี ที่ไม่มีวิตกก็มี สัญญาขันธ์ที่มีวิจารก็มี ที่ไม่มีวิจารก็มี สัญญาขันธ์ที่มีปีติก็มี ที่ไม่มีปีติก็มี สัญญาขันธ์ที่สหรคตด้วยปีติก็มี ที่ไม่สหรคตด้วยปีติก็มี สัญญาขันธ์ที่สหรคตด้วยสุขก็มี ที่ไม่สหรคตด้วยสุขก็มี สัญญาขันธ์ที่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี ที่ไม่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นกามาวจรก็มี ที่ไม่เป็นกามาวจรก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นรูปาวจรก็มี ที่ไม่เป็นรูปาวจรก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นอรูปาวจรก็มี ที่ไม่เป็นอรูปาวจรก็มี สัญญาขันธ์ที่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏทุกข์ก็มี ที่ไม่เป็นเหตุนำออกจากวัฏฏ- ทุกข์ก็มี สัญญาขันธ์ที่ให้ผลแน่นอนก็มี ที่ให้ผลไม่แน่นอนก็มี สัญญาขันธ์ที่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าก็มี ที่ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี ที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นกุศลก็มี ที่เป็นอกุศลก็มี ที่ เป็นอัพยากฤตก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๔๙}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

[๖๖] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี ที่ไม่ เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นวิบากก็มี ฯลฯ สัญญาขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายนอกตนเป็น อารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ (พึงขยายติกะแม้ทั้งหมดให้พิสดารเหมือนในกุสลติกะ)
ทุกมูลกวาร จบ
ติกมูลกวาร
[๖๗] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่มีเหตุก็มี ที่ไม่มีเหตุก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นกุศลก็มี ที่เป็นอกุศลก็มี ที่เป็นอัพยากฤตก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๖๘] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยเหตุก็มี ที่วิปปยุต จากเหตุก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์ที่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี ที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๕๐}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นกุศลก็มี ที่เป็นอกุศลก็มี ที่เป็นอัพยากฤตก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๖๙] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่มีเหตุก็มี ที่ไม่มีเหตุก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี ที่ สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี สัญญาขันธ์ที่เป็นวิบากก็มี ฯลฯ สัญญาขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายนอกตนเป็น อารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๗๐] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยเหตุก็มี ที่วิปปยุต จากเหตุก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์ที่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี ที่ไม่เป็นเหตุให้สัตว์ร้องไห้ก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี ที่ สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายนอกตนเป็น อารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้
ติกมูลกวาร จบ
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๕๑}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

อุภโตวัฑฒกวาร
[๗๑] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่มีเหตุก็มี ที่ไม่มีเหตุก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นกุศลก็มี ที่เป็นอกุศลก็มี ที่เป็นอัพยากฤตก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๗๒] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยเหตุก็มี ที่วิปปยุต จากเหตุก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาก็มี ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๗๓] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่ไม่เป็นเหตุแต่มีเหตุก็มี ที่ไม่ เป็นเหตุและไม่มีเหตุก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นวิบากก็มี ที่เป็นเหตุให้เกิด วิบากก็มี ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๗๔] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นโลกิยะก็มี ที่เป็นโลกุตตระก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๕๒}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ ทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ ไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๗๕] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่จิตบางดวงรู้ได้ก็มี ที่จิตบางดวง รู้ไม่ได้ก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็น อารมณ์ของกิเลสก็มี ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี ที่กิเลส ไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๗๖] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี ที่ไม่ เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี ที่ไม่มี วิตกมีเพียงวิจารก็มี ที่ไม่มีทั้งวิตกและวิจารก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๗๗] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอาสวะก็มี ที่วิปปยุต จากอาสวะก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๕๓}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สหรคตด้วยปีติก็มี ที่สหรคต ด้วยสุขก็มี ที่สหรคตด้วยอุเบกขาก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๗๘] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากอาสวะแต่เป็นอารมณ์ ของอาสวะก็มี ที่วิปปยุตจากอาสวะและไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค ก็มี ที่ต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่ต้องประหาณด้วยโสดาปัตติมรรค และมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๗๙] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี ที่ไม่ เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยโสดา- ปัตติมรรคก็มี ที่มีเหตุต้องประหาณด้วยมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี ที่ไม่มีเหตุต้องประหาณ ด้วยโสดาปัตติมรรคและมรรคเบื้องบน ๓ ก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๘๐] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสังโยชน์ก็มี ที่วิปปยุตจากสังโยชน์ก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิและจุติก็มี ที่เป็นเหตุให้ถึงนิพพานก็มี ที่ไม่เป็นเหตุให้ถึงปฏิสนธิ จุติ และนิพพานก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๕๔}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๘๑] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากสังโยชน์แต่เป็น อารมณ์ของสังโยชน์ก็มี ที่วิปปยุตจากสังโยชน์และไม่เป็นอารมณ์ของสังโยชน์ก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นของเสขบุคคลก็มี ที่เป็นของ อเสขบุคคลก็มี ที่ไม่เป็นของเสขบุคคลและอเสขบุคคลก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๘๒] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี ที่ไม่ เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นปริตตะก็มี ที่เป็นมหัคคตะ ก็มี ที่เป็นอัปปมาณะก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๘๓] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยคันถะก็มี ที่วิปปยุต จากคันถะก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่มีปริตตะเป็นอารมณ์ก็มี ที่มี มหัคคตะเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีอัปปมาณะเป็นอารมณ์ก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๘๔] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากคันถะแต่เป็นอารมณ์ ของคันถะก็มี ที่วิปปยุตจากคันถะและไม่เป็นอารมณ์ของคันถะก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๕๕}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นชั้นต่ำก็มี ที่เป็นชั้นกลางก็มี ที่เป็นชั้นประณีตก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๘๕] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของโอฆะก็มี ที่ไม่ เป็นอารมณ์ของโอฆะก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่มีสภาวะผิดและให้ผลแน่นอนก็มี ที่มีสภาวะชอบและให้ผลแน่นอนก็มี ที่ไม่แน่นอนโดยอาการทั้งสองนั้นก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๘๖] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยโอฆะก็มี ที่วิปปยุต จากโอฆะก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่มีมรรคเป็นอารมณ์ก็มี ที่มี มรรคเป็นเหตุก็มี ที่มีมรรคเป็นอธิบดีก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๘๗] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากโอฆะแต่เป็นอารมณ์ ของโอฆะก็มี ที่วิปปยุตจากโอฆะและไม่เป็นอารมณ์ของโอฆะก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เกิดขึ้นก็มี ที่ยังไม่เกิดขึ้นก็มี ที่จักเกิดขึ้นแน่นอนก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๘๘] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของโยคะก็มี ที่ไม่ เป็นอารมณ์ของโยคะก็มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๕๖}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นอดีตก็มี ที่เป็นอนาคตก็มี ที่เป็นปัจจุบันก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๘๙] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยโยคะก็มี ที่วิปปยุต จากโยคะก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่มีอดีตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีอนาคตธรรมเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๙๐] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่วิปปยุตจากโยคะแต่เป็นอารมณ์ ของโยคะก็มี ที่วิปปยุตจากโยคะและไม่เป็นอารมณ์ของโยคะก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นภายในตนก็มี ที่เป็น ภายนอกตนก็มี ที่เป็นภายในตนและภายนอกตนก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ [๙๑] สัญญาขันธ์หมวดละ ๑ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยผัสสะ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี ที่ไม่ เป็นอารมณ์ของนิวรณ์ก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๓ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์หมวดละ ๑๐ มีด้วยอาการอย่างนี้
อุภโตวัฑฒกวาร จบ
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๕๗}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

พหุวิธวาร
สัญญาขันธ์หมวดละ ๗ ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่เป็นกุศลก็มี ที่เป็นอกุศลก็มี ที่เป็นอัพยากฤตก็มี ที่เป็นกามาวจรก็มี ที่เป็นรูปาวจรก็มี ที่เป็นอรูปาวจรก็มี ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๗ มีด้วยอาการอย่างนี้ สัญญาขันธ์หมวดละ ๗ อีกหมวดหนึ่ง ได้แก่ สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วย สุขเวทนาก็มี ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาก็มี ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาก็มี ที่เป็น กามาวจรก็มี ที่เป็นรูปาวจรก็มี ที่เป็นอรูปาวจรก็มี ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายนอกตนเป็น อารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่เป็นกามาวจรก็มี ที่เป็นรูปาวจรก็มี ที่เป็นอรูปาวจรก็มี ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี สัญญาขันธ์หมวดละ ๗ มีด้วยอาการอย่างนี้ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒๔ ได้แก่ เพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย สัญญาขันธ์ ที่เป็นกุศล ๑ ที่เป็นอกุศล ๑ ที่เป็นอัพยากฤต ๑ จึงมี เพราะโสตสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย สัญญาขันธ์ที่เป็นกุศล ๑ ที่เป็นอกุศล ๑ ที่เป็น อัพยากฤต ๑ จึงมี สัญญาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่โสตสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่ฆาน- สัมผัส สัญญาที่เกิดแต่ชิวหาสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่กายสัมผัส สัญญาที่เกิดแต่ มโนสัมผัส สัญญาขันธ์หมวดละ ๒๔ มีด้วยอาการอย่างนี้ สัญญาขันธ์หมวดละ ๒๔ อีกหมวดหนึ่ง ได้แก่ เพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ๑ ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา ๑ ที่สัมปยุตด้วย อทุกขมสุขเวทนา ๑ จึงมี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๕๘}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

ฯลฯ
สัญญาขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายนอกตนเป็น อารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี สัญญาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ สัญญาที่เกิดแต่มโนสัมผัส เพราะโสตสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ๑ จึงมี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายนอกตนเป็น อารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี สัญญาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ สัญญาที่เกิดแต่มโนสัมผัส สัญญาขันธ์หมวดละ ๒๔ มีด้วยอาการอย่างนี้ สัญญาขันธ์หมวดละ ๓๐ ได้แก่ เพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย สัญญาขันธ์ที่เป็น กามาวจร ๑ ที่เป็นรูปาวจร ๑ ที่เป็นอรูปาวจร ๑ ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ ๑ จึงมี เพราะโสตสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย สัญญาขันธ์ที่เป็นกามาวจร ๑ ที่เป็นรูปาวจร ๑ ที่เป็นอรูปาวจร ๑ ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ ๑ จึงมี สัญญาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ สัญญาที่เกิดแต่มโนสัมผัส สัญญาขันธ์หมวดละ ๓๐ มีด้วยอาการอย่างนี้ สัญญาขันธ์หมวดละมากอย่าง ได้แก่ เพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย สัญญาขันธ์ ที่เป็นกุศล ๑ ที่เป็นอกุศล ๑ ที่เป็นอัพยากฤต ๑ ที่เป็นกามาวจร ๑ ที่เป็นรูปาวจร ๑ ที่เป็นอรูปาวจร ๑ ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ ๑ จึงมี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๕๙}

พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ [๑. ขันธวิภังค์]

๒. อภิธรรมภาชนีย์ ๓. สัญญาขันธ์

เพราะโสตสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย สัญญาขันธ์ที่เป็นกุศล ๑ ที่เป็นอกุศล ๑ ที่เป็น อัพยากฤต ๑ ที่เป็นกามาวจร ๑ ที่เป็นรูปาวจร ๑ ที่เป็นอรูปาวจร ๑ ที่ไม่นับ เนื่องในวัฏฏทุกข์ ๑ จึงมี สัญญาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ สัญญาที่เกิดแต่มโนสัมผัส สัญญาขันธ์หมวดละมากอย่างมีด้วยอาการอย่างนี้ สัญญาขันธ์หมวดละมากอย่าง อีกหมวดหนึ่ง ได้แก่ เพราะจักขุสัมผัสเป็น ปัจจัย สัญญาขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ๑ ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา ๑ ที่ สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ๑ จึงมี
ฯลฯ
สัญญาขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายนอกตนเป็น อารมณ์ก็มี ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ก็มี ที่เป็นกามาวจรก็มี ที่เป็นรูปาวจรก็มี ที่เป็นอรูปาวจรก็มี ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ก็มี เพราะโสตสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ เพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย สัญญาขันธ์ที่มีธรรมภายในตนเป็นอารมณ์ ๑ ที่มี ธรรมภายนอกตนเป็นอารมณ์ ๑ ที่มีธรรมภายในตนและภายนอกตนเป็นอารมณ์ ๑ ที่เป็นกามาวจร ๑ ที่เป็นรูปาวจร ๑ ที่เป็นอรูปาวจร ๑ ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ ๑ จึงมี สัญญาที่เกิดแต่จักขุสัมผัส ฯลฯ สัญญาที่เกิดแต่มโนสัมผัส สัญญาขันธ์หมวดละมากอย่างมีด้วยอาการอย่างนี้ นี้เรียกว่า สัญญาขันธ์
พหุวิธวาร จบ
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๕ หน้า : ๖๐}


                  เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๕ หน้าที่ ๔๒-๖๐. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=35&siri=4              ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5], [6].                   อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=35&A=702&Z=961                   ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=35&i=54              พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=35&item=54&items=10              The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=35&item=54&items=10                   สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๕ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu35              อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://suttacentral.net/vb1/en/thittila#pts-s62



บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]

สีพื้นหลัง :