บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
ฉบับหลวง ฉบับมหาจุฬาฯ บาลีอักษรไทย PaliRoman |
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร อนุโลมบุคคล [๙๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยา- กฤตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่กำลังดับ ใน ภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลในปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลเหล่านั้นกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศลในปวัตติ- กาล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็น กุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลในปัญจโวการภูมิ สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ [๑๐๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่กำลังดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๙๓}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศลในปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศลใน ปวัตติกาล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับ แต่สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศลในปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ก็กำลังดับอนุโลมโอกาส [๑๐๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิ นั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใน ภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลใน ภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตกำลังดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๙๔}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
[๑๐๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตกำลังดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังดับอนุโลมปุคคโลกาส [๑๐๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่กำลัง ดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลในปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๙๕}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศลใน ปวัตติกาล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลในปัญจ- โวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับและ สภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ [๑๐๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศลในปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศลใน ปวัตติกาล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศลใน ปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับ และสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังดับปัจจนีกบุคคล [๑๐๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล เหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะ แห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศลและอกุศล บุคคล ผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๙๖}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาท- ขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศลและกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศลใน ปวัตติกาล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิต ในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่ง สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับ [๑๐๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศลใน ปวัตติกาล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิต {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๙๗}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่กำลัง ดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่ง สภาวธรรมที่เป็นกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับปัจจนีกโอกาส [๑๐๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลใน ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับมีไหม วิ. ไม่มี [๑๐๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. กำลังดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๙๘}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับมีไหม วิ. ไม่มีปัจจนีกปุคคโลกาส [๑๐๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศลและ อกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่า นั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศล และกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศลใน ปวัตติกาล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาท- ขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตก็ไม่ใช่กำลังดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๙๙}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาว- ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ใน ภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับ [๑๑๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศลใน ปวัตติกาล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ใน อุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิ ใช่ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ใน ภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับ๒. อตีตวาร อนุโลมบุคคล [๑๑๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๐๐}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ [๑๑๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่อนุโลมโอกาส [๑๑๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิ นั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใน ภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๐๑}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลใน ภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเคยดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคยดับ ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยดับ [๑๑๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลใน ภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเคยดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่เคยดับ ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็เคยดับอนุโลมปุคคโลกาส [๑๑๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. เมื่อจิตที่เป็นอกุศลดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไป อยู่ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็น กุศลไม่เคยดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยดับ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๐๒}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคล ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น เคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคยดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิ และปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ และสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยดับ [๑๑๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคล ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น เคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่เคยดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิ และปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ และสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็เคยดับปัจจนีกบุคคล [๑๑๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับมีไหม วิ. ไม่มี ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับมีไหม วิ. ไม่มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๐๓}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๒. อตีตวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยา- กฤตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับมีไหม วิ. ไม่มี ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับมีไหม วิ. ไม่มี [๑๑๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับมีไหม วิ. ไม่มี ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับมีไหม วิ. ไม่มีปัจจนีกโอกาส [๑๑๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิ นั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ในภูมินั้นก็ไม่เคยดับมีไหม วิ. ไม่มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๐๔}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๒. อตีตวาร
[๑๒๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ในภูมินั้นก็ไม่เคยดับมีไหม วิ. ไม่มีปัจจนีกปุคคโลกาส [๑๒๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เมื่ออกุศลจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็น อกุศลมิใช่ไม่เคยดับ เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นไม่เคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคล ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ เคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ บุคคลผู้กำลังอุบัติอยู่ใน สุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยดับและ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๐๕}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ [๑๒๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคล ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคย ดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยดับและสภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตก็ไม่เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่๓. อนาคตวาร อนุโลมบุคคล [๑๒๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ แห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลเหล่านั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๐๖}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล สภาวธรรมที่เป็นอัพยา- กฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็จักดับ [๑๒๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในลำดับแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับอนุโลมโอกาส [๑๒๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม ฯลฯอนุโลมปุคคโลกาส [๑๒๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๐๗}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่ง จิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและ ปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคลและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน อสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและ ปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและ สภาวธรรมที่เป็นกุศลก็จักดับ [๑๒๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๐๘}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็น อกุศลก็จักดับปัจจนีกบุคคล [๑๒๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่ง จิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ ใช่จักดับ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยา- กฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ใน ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๐๙}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
[๑๒๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ แห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ปัจจนีกโอกาส [๑๓๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม ฯลฯปัจจนีกปุคคโลกาส [๑๓๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ แห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่จักดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๑๐}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน อสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่ จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ [๑๓๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ใช่๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร อนุโลมบุคคล [๑๓๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๑๑}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ใน ภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคย ดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่า นั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ [๑๓๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่ กำลังดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ บุคคลเหล่านั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๑๒}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุโลมโอกาส [๑๓๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม ฯลฯอนุโลมปุคคโลกาส [๑๓๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรม ที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะ แห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น เคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๑๓}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
[๑๓๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะ แห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังดับปัจจนีกบุคคล [๑๓๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับมีไหม วิ. ไม่มี อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับมีไหม วิ. ไม่มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๑๔}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
[๑๓๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับมีไหม วิ. ไม่มีปัจจนีกโอกาส [๑๔๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม ฯลฯปัจจนีกปุคคโลกาส [๑๔๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่เคยดับ เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน สุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๑๕}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ [๑๔๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ บุคคลผู้กำลังอุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร อนุโลมบุคคล [๑๔๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิต ใด (ในภังคขณะแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๑๖}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่ เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็น อกุศลก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยา- กฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ใน ภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้น จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ [๑๔๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๑๗}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลัง ดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ บุคคลเหล่านั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังดับอนุโลมโอกาส [๑๔๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม ฯลฯอนุโลมปุคคโลกาส [๑๔๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่ เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังดับและสภาวธรรม ที่เป็นอกุศลก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรม ที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๑๘}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะ แห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังดับ [๑๔๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลังดับ ในภังคขณะ แห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังดับปัจจนีกบุคคล [๑๔๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๑๙}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่จักไม่ดับ ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคใน ลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่า นั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันต- บุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ ไม่ใช่กำลังดับ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จัก ไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลัง ดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ [๑๔๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว- {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๒๐}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต มิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ปัจจนีกโอกาส [๑๕๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม ฯลฯปัจจนีกปุคคโลกาส [๑๕๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่จักไม่ดับ ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้ อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่ กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่ จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิต นั้น บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๒๑}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ใน ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่ กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาว- ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ [๑๕๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ใน ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่ กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่๖. อตีตานาคตวาร อนุโลมบุคคล [๑๕๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๒๒}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล เหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคลเหล่านั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคย ดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ [๑๕๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น เคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่อนุโลมโอกาส [๑๕๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๒๓}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุโลมปุคคโลกาส [๑๕๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคย ดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยดับ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นเคยดับ และสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคล ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคยดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิ และปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ และสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๒๔}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
[๑๕๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติ อยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคล ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่เคยดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการ- ภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจัก ดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็เคยดับปัจจนีกบุคคล [๑๕๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม วิ. ไม่มี ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอัพยา- กฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม วิ. ไม่มี ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๒๕}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๒. นิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
[๑๕๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม วิ. ไม่มี ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับปัจจนีกโอกาส [๑๖๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม ฯลฯปัจจนีกปุคคโลกาส [๑๖๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ สภาว- ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิ ใช่จักไม่ดับ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่เคยดับ บุคคล ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น ไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่เคยดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๒๖}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับ [๑๖๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับนิโรธวาร จบ เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๙ หน้าที่ ๙๓-๑๒๗. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=39&siri=8 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5], [6], [7], [8], [9], [10], [11]. อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=39&A=1993&Z=2777 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=39&i=190 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=39&item=190&items=92 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=39&item=190&items=92 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu39
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]