บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
ฉบับหลวง ฉบับมหาจุฬาฯ บาลีอักษรไทย PaliRoman |
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร อนุโลมบุคคล [๑๖๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๒๗}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยา- กฤตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ [๑๖๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ไม่ใช่อนุโลมโอกาส [๑๖๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิ นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลใน ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๒๘}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตกำลังดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด [๑๖๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตกำลังดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมิ นั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตกำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังเกิดอนุโลมปุคคโลกาส [๑๖๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๒๙}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
[๑๖๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังดับใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดกำลังดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ไม่ใช่ปัจจนีกบุคคล [๑๖๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาท- ขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศล ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศล บุคคลผู้เข้า นิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ แห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศล ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศล บุคคลผู้เข้า นิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๓๐}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศลใน ปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่ กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้ง หมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศลในปวัตติกาล ในภังคขณะ แห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด [๑๗๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศล ในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่ กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยา- กฤตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศลในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยา- กฤตของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๓๑}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
[๑๗๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม วิ. ไม่มี [๑๗๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม วิ. ไม่มีปัจจนีกปุคคโลกาส [๑๗๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่กำลังดับ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศล ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศล {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๓๒}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาว- ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศล ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต มิใช่ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจาก กุศลในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาว- ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากกุศลในปวัตติกาล ใน ภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด [๑๗๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังดับใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๓๓}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๒. อตีตวาร
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยา- กฤตมิใช่ไม่กำลังดับ บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศลในปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่กำลังดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังดับ สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่กำลัง เกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอกุศลใน ปวัตติกาล ในภังคขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลและอกุศลในอรูปภูมิ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังดับและสภาวธรรมที่เป็น อกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด๒. อตีตวาร อนุโลมบุคคล [๑๗๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๓๔}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ [๑๗๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. ใช่อนุโลมโอกาส [๑๗๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมินั้น ก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใน ภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลใน ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเคยดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคยเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๓๕}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๒. อตีตวาร
[๑๗๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลใน ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเคยดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่เคยเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็เคยเกิดอนุโลมปุคคโลกาส [๑๗๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. เมื่อจิตที่เป็นอกุศลดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศล ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยเกิด อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้ อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๓๖}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๒. อตีตวาร
เคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิ และปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ และสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยเกิด [๑๘๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคล ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ใน จตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็เคยเกิดปัจจนีกบุคคล [๑๘๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับมีไหม วิ. ไม่มี ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม วิ. ไม่มี อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับมีไหม วิ. ไม่มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๓๗}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม วิ. ไม่มี [๑๘๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับมีไหม วิ. ไม่มี ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม วิ. ไม่มีปัจจนีกโอกาส [๑๘๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิ นั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม วิ. ไม่มี [๑๘๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๓๘}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม วิ. ไม่มีปัจจนีกปุคคโลกาส [๑๘๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เมื่อจิตที่เป็นอกุศลดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็น ไปอยู่ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่เคยดับ บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน อสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นไม่เคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ บุคคลผู้กำลังอุบัติใน สุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๓๙}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
[๑๘๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นไม่เคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ บุคคลผู้กำลังอุบัติใน สุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม วิ. ใช่๓. อนาคตวาร อนุโลมบุคคล [๑๘๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาว- ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและสภาวธรรมที่เป็น อกุศลก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๔๐}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและอรหันตบุคคล สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่จักเกิด บุคคล นอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็น กุศลก็จักเกิด [๑๘๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ จักเกิดอนุโลมโอกาส [๑๘๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมินั้น ก็จักเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตใน ภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๔๑}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิ นั้นก็จักเกิดใช่ไหม วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตจักดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่จักเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็จักเกิด [๑๙๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลใน ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตจักดับ แต่ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้น สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักเกิดอนุโลมปุคคโลกาส [๑๙๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาว- ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่ จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๔๒}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล และบุคคลผู้ อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิ และปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ และสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็จักเกิด [๑๙๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็น อกุศลก็จักเกิดปัจจนีกบุคคล [๑๙๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๔๓}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่จักไม่ เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและอรหันตบุคคล สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่จักเกิด อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและอรหันตบุคคล สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ [๑๙๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ แห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและสภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ปัจจนีกโอกาส [๑๙๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๔๔}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลใน ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม วิ. ไม่มี [๑๙๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม วิ. ไม่มีปัจจนีกปุคคโลกาส [๑๙๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคลและบุคคลผู้อุบัติ อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จัก ดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่จักเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๔๕}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค อรหันตบุคคลและบุคคลผู้อุบัติ อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาว- ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ [๑๙๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม วิ. ใช่๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร อนุโลมบุคคล [๑๙๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๔๖}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่า นั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยา- กฤตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคล เหล่านั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด [๒๐๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่ กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลเหล่านั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๔๗}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุโลมโอกาส [๒๐๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม ฯลฯอนุโลมปุคคโลกาส [๒๐๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรม ที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ แห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น เคยดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๔๘}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
[๒๐๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดเคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ใน อุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นเคยดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังเกิดปัจจนีกบุคคล [๒๐๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม วิ. ไม่มี อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม วิ. ไม่มี {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๔๙}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
[๒๐๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดมีไหม วิ. ไม่มีปัจจนีกโอกาส [๒๐๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม ฯลฯปัจจนีกปุคคโลกาส [๒๐๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่ไม่เคยดับ เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติในสุทธา- วาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่า {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๕๐}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ บุคคล ผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ [๒๐๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่ไม่เคยดับ บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่เคยดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร อนุโลมบุคคล [๒๐๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่ง จิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและสภาวธรรมที่ เป็นอกุศลก็จักดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๕๑}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่า นั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคล เหล่านั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด [๒๑๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่ กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลเหล่านั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๕๒}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุโลมโอกาส [๒๑๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม ฯลฯอนุโลมปุคคโลกาส [๒๑๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ แห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นกำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ ในอุปปาทขณะแห่งสภาว- ธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรม ที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะแห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคล {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๕๓}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
เหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่ใช่กำลังเกิดในอุปปาทขณะ แห่งสภาวธรรมที่เป็นกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็กำลังเกิด [๒๑๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ใช่ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่กำลังเกิด ในอุปปาทขณะ แห่งสภาวธรรมที่เป็นอกุศล สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็กำลังเกิดปัจจนีกบุคคล [๒๑๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิต ใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด และสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๕๔}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับ แห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่ กำลังเกิด อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จัก ไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลัง เกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ [๒๑๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต มิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น ไม่ใช่กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๕๕}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปัจจนีกโอกาส [๒๑๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม ฯลฯปัจจนีกปุคคโลกาส [๒๑๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะแห่งอรหัตตมรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้อุบัติ อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลัง เกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตตมรรค บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่ง จิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอรหัตต- มรรค อรหันตบุคคล บุคคลจักได้อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่ง จิตนั้น บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่า นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่ใช่กำลังเกิด อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่า {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๕๖}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ในภังคขณะ แห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ [๒๑๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต จากอกุศล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตมิใช่จักไม่ดับ ใน ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่ กำลังเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม วิ. ใช่๖. อตีตานาคตวาร อนุโลมบุคคล [๒๑๙] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๕๗}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. ใช่ [๒๒๐] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้น เคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. ใช่อนุโลมโอกาส [๒๒๑] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม ฯลฯ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๕๘}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุโลมปุคคโลกาส [๒๒๒] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นกุศลของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่ใช่จักดับ บุคคล นอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศล ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยเกิด อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นเคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นเคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ใน จตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็เคยเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๕๙}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
[๒๒๓] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สภาวธรรม ที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักดับใช่ไหม วิ. ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นเคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตไม่ใช่จักดับ บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ นั้นเคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตก็จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดจักดับ สภาวธรรมที่ เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นจักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ใน จตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลเหล่านั้นใน ภูมินั้นจักดับและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็เคยเกิดปัจจนีกบุคคล [๒๒๔] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม วิ. ไม่มี ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็นกุศล ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม วิ. เคยเกิด อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น อัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม วิ. ไม่มี ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น กุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม วิ. เคยเกิด {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๖๐}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๒. ปวัตติวาร ๓. อุปปาทนิโรธวาร ๖. อตีตานาคตวาร
[๒๒๕] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักดับมีไหม วิ. ไม่มี ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่เป็น อกุศลของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม วิ. เคยเกิดปัจจนีกโอกาส [๒๒๖] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่เป็น อกุศลในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม ฯลฯปัจจนีกปุคคโลกาส [๒๒๗] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาว- ธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่สภาวธรรมที่เป็นอกุศล มิใช่จักไม่ดับ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคล เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและสภาวธรรมที่เป็นอกุศลก็ไม่ใช่จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรมที่ เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค และอรหันตบุคคล บุคคลจักได้ อรหัตตมรรคในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของ บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักดับ แต่สภาวธรรมที่เป็นกุศลมิใช่ไม่เคยเกิด บุคคล ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่ จักดับและสภาวธรรมที่เป็นกุศลก็ไม่เคยเกิด อนุ. สภาวธรรมที่เป็นกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาวธรรมที่ เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. จักดับ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า : ๑๖๑}
พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๙. ธัมมยมก]
๓. ภาวนาวาร
ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม ที่เป็นกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม วิ. เคยเกิด [๒๒๘] อนุ. สภาวธรรมที่เป็นอกุศลของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สภาว- ธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักดับใช่ไหม วิ. จักดับ ปฏิ. สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักดับ สภาวธรรม ที่เป็นอกุศลของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม วิ. เคยเกิดอุปปาทนิโรธวาร จบ ปวัตติวาร จบ เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๓๙ หน้าที่ ๑๒๗-๑๖๒. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=39&siri=9 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [1], [2], [3], [4], [5], [6], [7], [8], [9], [10], [11]. อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=39&A=2778&Z=3581 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=39&i=282 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=39&item=282&items=96 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=39&item=282&items=96 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu39
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]