ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก  หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
มิลินทปัญหา
ขีณาสวานัง อภายนปัญหา ที่ ๗
             สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีอุดมกษัตริย์ มีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระเสนผู้เป็นเจ้าผู้ประกอบด้วยปรีชาญาณอันประเสริฐ สมเด็จพระบรม- โลกนาถศาสดาจารย์เจ้า มีพระพุทธฎีกาตรัสประทานธรรมเทศนาไว้ว่า พระอรหันต์ทั้ง หลายจะได้สะดุ้งตัวกลัวภัยต่างๆ หามิได้ ตกว่าพระพุทธฎีกาตรัสฉะนี้ ก็ครั้งเมื่อสมเด็จพระ ศรีสรรเพชญ์เสด็จเข้าไปทรงบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์มหานครนั้น พระอรหันต์เจ้าตามสมเด็จ พระพุทธดำเนินเข้าไปมิใช่น้อยประมาณถึง ๕๐๐ องค์ กับพระอานนทเถระผู้เป็นพุทธอุปฐาก พระเทวทัตปล่อยช้างธนบาลหวังจะให้แทงพระองค์สมเด็จพระสัพพัญญูเจ้า ขณะนั้นพระอรหันต์ เจ้าทั้งหลาย ๕๐๐ ก็ถอยหนีซุกซ่อนไป เหลือแต่พระอานนทเถระผู้เป็นพุทธอุปฐากผู้เดียวไม่มี ความเกรงขาม บทจรตามเสด็จอยู่ พระอานนท์ผู้เดียวยังไม่ได้มรรคและผล เป็นปุถุชน ประ กอบด้วยกิเลสหมกไหม้อยู่ในสันดานไฉนน้ำใจจึงไม่กลัวช้างธนบาลเมามัน พระอรหันต์สิ้นอาสวะ กลับกลัวช้างธนบาลพากันทิ้งสมเด็จพระบรมโลกุตตมาจารย์ไว้ แล้วหนีไปไม่เหลือหลอ นี่แหละ ความข้อนี้โยมสงสัยนัก พระอรหันต์เหล่านั้นจะทิ้งพระบรมครูเสียด้วยความกลัว หรือจะทิ่ง เสียด้วยมนสิการกำหนดในใจจะให้พระบรมครูปรากฏด้วยกรรมของพระองค์อันได้ทรงทำไว้ แต่ครั้งก่อน หรือใคร่จะเห็นปาฏิหาริย์อันบวรของพระมุนินทรสุคตเจ้า จึงได้พากันย่างเท้าก้าว หนีไปเสีย ความข้อนี้เป็นประการใด นิมนต์แก้ไขให้ประจักษ์แจ้ง โยมแคลงใจนักหนา              เถโร อาห ฝ่ายพระนาคเสนผู้ปรีชาเฉลิมปราชญ์มีเถรวาจาวิสัชนาว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร เมื่อสมเด็จพระบรมโลกนาถศาสดาจารย์ เสด็จคมนา- การเข้าไปภิกขาจารกับพระอรหันต์ ๕๐๐ พระเทวทัตปล่อยธนบาลหัตถีมา พระอรหันต์ทั้งหลาย พากันหลีกหนีไปเสียนั้น พระอรหันต์ทั้งหลายจะได้พากันหลีกหนีไปด้วยความกลัวช้าง หรือ ด้วยคิดจะทิ้งให้พระสัพพัญญูปรากฏตามกรรมของพระองค์ดังบพิตรว่านั้นหามิได้ ที่จริง มหา- ราช ขอถวายพระพร ใจของพระอรหันต์ก็เหมือนกันกับพื้นธรณีและจอมคีรีขุนเขาสิเนรุราช มิได้หวาดไหวกลัวภัยสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย มหาราช ขอถวายพระพร พื้นพระธรณีนี้ถ้ามีผู้ใดใครมา ขุดรื้อให้พังทำลายลง จะรู้กลัวหรือสะดุ้งตกใจประการใดบ้างหรือหามิได้ นะบพิตรพระราชสมภาร              สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นภูมิบาล มีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระ นาคเสนผู้ปรีชา อันว่าพื้นธรณีนั้นจะได้รู้กลัวหรือสะดุ้งตกใจประการใด ก็หามิได้              พระนาคเสนจึงเถรวาจาว่า มหาราช ดูรานะบพิตรผู้ประเสริฐ พื้นธรณีนั้น ไม่รู้กลัวหรือสะดุ้งตกใจด้วยเหตุการณ์อย่างไรเล่า ขอถวายพระพร              สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากร จึงมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้า แต่พระนาคเสนผู้ปรีชา พื้นธรณีไม่รู้กลัวหรือสะดุ้งตกใจนั้น ก็เพราะพื้นธรณีนั้นจะได้มีเหตุที่จะ ให้กลัวสะดุ้งตกใจอย่างใดอย่างหนึ่งหามิได้              พระนาคเสนจึงมีเถรวาจาถวายพระพรเป็นอุปไมยว่า มหาราช ดูรานะบพิตรผู้ประเสริฐ พื้นธรณีไม่กลัวไม่สะดุ้งด้วยไม่มีเหตุที่จะให้กลัวให้สะดุ้งนั้น มีครุวนาฉันใด เอวเมว โข พระอร- หันต์เจ้าทั้งหลายก็ไม่กลัวไม่สะดุ้ง ด้วยไม่มีเหตุที่จะให้กลัวให้สะดุ้งฉันนั้น มหาราช ขอถวายพระพรประการหนึ่ง จอมคีรีขุนเขาพระสิเนรุราช ถ้ามีผู้ใดใครผู้หนึ่งมาพังให้ทำลาย และทุบต่อยตีหรือเอาอัคคีเข้าเผาผลาญ ขุนเขานั้นจะสะดุ้งตกใจประการใดบ้างหรือหาไม่ ขอถวายพระพร              สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรจึงตรัสว่า น หิ ภนฺเต ข้าแต่พระนาคเสนผู้จำเริญ ขุนเขาพระสิเนรุราชนั้น จะกลัวหรือสะดุ้งตกใจเห็นมิได้              พระนาคเสนจึงมีเถรวาจาว่า เกน การเณน ขุนเขานั้นไม่กลัวไม่สะดุ้งตกใจ ด้วยเหตุ การณ์อย่างไรเล่า มหาบพิตรพระราชสมภาร สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นภูมิบาล จึงตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา ขุนเขาพระสิเนรุราชไม่กลัวไม่สะดุ้งตกใจนั้น ก็เพราะขุนเขาพระสิเนรุราชนั้นจะมีเหตุให้รู้กลัว รู้สะดุ้งอย่างใดอย่างหนึ่งหามิได้              พระนาคเสนจึงมีเถรวาจาว่า มหาราช ดูรานะบพิตรผู้ประเสริฐ ขุนเขาพระสิเนรุราช ไม่กลัวไม่สะดุ้ง ด้วยไม่มีเหตุจะให้สะดุ้งนั้น มีครุวนาฉันใด เอวเมว โข พระอรหันต์ขีณาสพเจ้า ทั้งหลาย ก็ไม่กลังไม่สะดุ้ง ด้วยไม่มีเหตุที่จะให้กลัวให้สะดุ้งฉันนั้น              มหาราช ขอถวายพระพร ถ้าว่ามหาชนทั้งหลายเหล่าใดเหล่าหนึ่งในหมื่นโลกธาตุนี้ มีมือถือหอกอันคมกล้าทุกตัวคน เอกํ อรหนฺตํ ปริวเรตฺวา พึงพากันไปแวดล้อมพระอรหันต์ องค์หนึ่ง ทำเป็นดังว่าทิ่มแทงให้ถึงแก่ชีวิตอันตราย ด้วยอาการดุร้ายน่าพึงกลัง ก็ไม่สามารถจะ ทำให้พระอรหันต์องค์หนึ่งนั้นสะดุ้งตกใจได้ แม้ความหวาดหวั่นแห่งจิตของท่านสักหนหนึ่งก็ ไม่มี เพราะท่านเป็นผู้ไกลแล้วจากเหตุแห่งความกลัว ไม่มีเหตุอะไรจะมาทำให้ท่านกลัวได้เลย              มหาราช ขอถวายพระพร ประการหนึ่ง พระอรหันต์ ๕๐๐ นั้น เมื่อช้างธนบาลวิ่งมา จึงดำริพร้อมกันฉะนี้ว่า อาตมาจะตามเสด็จพระพุทธดำเนินอยู่ไม่ชอบกล คุณของพระอานนท์ ผู้เป็นปุถุชนจักไม่ปรากฏแต่ประชาชนทั้งหลาย พระอานนท์เป็นพุทธอุปฐาก มีความรักใคร่ใน สมเด็จพระสัพพัญญูเจ้า ถึงกับสู้เสียชีวิตแทนพระองค์ได้ แม้เป็นปุถุชนอยู่ก็ไม่ครั่น คร้ามต่อความตายเสียดายชีวิต อุตสาหะตั้งจิตบริจาคถวายสมเด็จพระจอมไตรโลกนาถเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย ๕๐๐ นั้นมีความประสงค์จะประกาศคุณของพระอานนท์ให้ปรากฏดังนี้ จึงทำเป็นกลัววิ่งหนีช้างธนบาลไป แต่ที่จริงใจของท่านจะได้พรั่นพรึงสักหน่อยหนึ่ง ก็หามิได้ ขอถวายพระพร              สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีได้สวนาการ ก็สิ้นสงสัย ทรงสาธุการชื่นชมปรีชา ญาณของพระนาคเสนผู้เฉลิมปราชญ์ ก็มีในกาลครั้นนั้น
ขีณาสวานัง อภายนปัญหา คำรบ ๗ จบเพียงนี้

             เนื้อความมิลินทปัญหา หน้าที่ ๓๓๕ - ๓๓๗. http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=141              สารบัญมิลินทปัญหา http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=0#item_141

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙ หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]