ขอนอบน้อมแด่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
                      พระองค์นั้น
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก  หนังสือธรรมะ
อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย
มิลินทปัญหา
โลเกนัตถิภาวปัญหา ที่ ๗
             ราชา สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสถามอรรถปัญหาว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชาญาณ บุคคลทั้งหลายจะเป็นพระพุทธเจ้าก็ดี พระ ปัจเจกโพธิเจ้าก็ดี พระสาวกเจ้าก็ดี มีปรากฏในโลก บุคคลจะเป็นบรมกษัตริย์จักรพรรดิราชก็ดี เป็นพระยาประเทศราชก็ดี เป็นเทวดาก็ดี เป็นมนุษย์ก็ดี เป็นผู้มีทรัพย์หรือหาทรัพย์มิได้ก็ดี จะเป็นทุกข์ก็ดี จะเป็นสุขก็ดี จะเป็นเพศหญิงเพศชายก็ดี บุคคลจะกระทำบุญกระทำบาปก็ดี ผลบุญผลบาปก็ดี บรรดาสิ่งเหล่านี้ย่อมปรากฏในโลกสิ้น อีกประการหนึ่ง สัตว์ที่เกิดในโลก เป็นอัณฑชะกำเนิดเป็นต้นว่า ไก่และนำอันเกิดแต่ไข่นั้นก็ดี สัตว์ทั้งหลายที่เป็นชลาพุชะกำเนิด ได้แก่มนุษย์เป็นต้นก็ดี สัตว์ที่เกิดในสังสทซะกำเนิดเกิด้วยเหงื่อไคลและละอองเกสรดอกไม้ก็ดี สัตว์ที่เกิดในอุปปาติกะกำเนิด มีเทวดาเป็นต้นก็ดี ย่อมปรากฏในโลกนี้ ประการหนึ่ง สัตว์ที่หา เท้ามิได้ก็ดี สัตว์สองเท้าก็ดี สัตว์สี่เท้าก็ดี มีเท้ามากก็ดี ย่อมมีปรากฏในโลก ประการหนึ่ง ยักษ์และผีเสื้อและกุมภัณฑ์และอสูรและคนธรรพ์และปีศาจและกินนรนาคครุฑฤษีวิชาธรก็ดี ย่อมมีอยู่ในโลกนี้ ประการหนึ่ง ช้างม้าโคกระบืออูฐลา แพะแกะเนื้อทราบสุกรราชสีห์ เสือโคร่ง เสือเหลืองหมีเสือดาว สุนัขบ้านสุนัขจิ้งจอก ย่อมมีอยู่ในโลกนี้ ประการหนึ่ง บรรดานกมีชนิด เป็นอันมากก็มีปรากฏในโลก ประการหนึ่ง เงินทองแก้วสังข์แก้วมุกดา แก้วประพาฬแก้วมณี แก้วแดงแก้วลายแก้วไพฑูรย์แก้วผลึกเพชรกาฬโลหะตามพโลหะรชฏโลหะกังสโลหะ และวัตถา ผ้าทั้งหลายคือผ้ากระทำด้วยด้าย กระทำด้วยป่าน กระทำด้วยใยบัว และผ้ากระทำด้วยเปลือก ไม้และผ้ากัมพลก็ดีก็มีอยู่ในโลกนี้ จะว่าด้วยพืชทั้งหลายเป็นต้นว่า ข้าวสาลีและข้าวแดง ข้าว เหนียวและพืชต่างๆ คือข้าวโพดข้าวฟ่างถั่วงาฟักแฟงแตงน้ำเต้ามะเขือพริกหอมกระเทียม และสารพัดพืชทั้งหลายต่างๆ นี้ย่อมมีอยู่ในโลกนี้ จะว่าด้วยกลิ่นทั้งหลายต่างๆ คือกลิ่นราก กลิ่นแก่น กลิ่นกระลี้ กลิ่นใบ กลิ่นดอก กลิ่นผล กลิ่นทั้งหลายสารพัดทั้งกลิ่นเหม็นและกลิ่นหอม ย่อมมีในโลกนี้สิ้น ประการหนึ่ง ติณชาติเครือเป็นเถาวัลย์เครือกอหน่อ ลำต้นทั้งหลาย และ แม่น้ำและห้วยหนอสระบ่อทะเลอันใหญ่ และเต่าปลาสารพัดสัตว์นี้ก็มีในโลกแล้ว ที่สิ่งไร นอกกว่านี้จะไม่มีเล่า นิมนต์พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนาไป ให้โยมทราบในกาลนี้              พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ สิ่งที่ มิได้บังเกิดมีในโลกนี้มีอยู่ ๓ ประการ สเจตนา วา สิ่งที่มีเจตนาเป็นต้นว่ามนุษย์และเดียรัจฉาน บรรดาที่มีจิตเจตนานั้นก็ดี อเจตนา วา หรือสิ่งที่หาเจตนามิได้เป็นต้นว่าพฤกษาชาติต้นไม้และ บรรดาของที่ไม่มีจิตเจตนานั้นก็ดี อชรามรา จะไม่แก่ไม่เฒ่าไม่ตายไม่ยับไม่ยุ่ยไปหามิได้ ประการ ๑ สงฺขารานํ นิจฺจตา ความที่สังขารทั้งหลายเป็นของเที่ยงยั่งยืนหามิได้ประการ ๑ ปร- มตฺเถน สตฺตูปลทฺธิ ที่เรียกว่าสัตว์ว่าบุคคลโดยปรมัตถ์หามิได้ ประการ ๑ สิริเป็น ๓ ประการ เท่านี้ไม่มีปรากฏในโลก              สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ได้ทรงฟังจึงตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา เอว- เมตํ ตถา โยมจะรับคำของพระผู้เป็นเจ้าดังนี้ไว้เป็นที่คำนับสืบไปในกาลบัดนี้
โลเกนัตถิภาวปัญหา คำรบ ๗ จบเพียงนี้

             เนื้อความมิลินทปัญหา หน้าที่ ๓๙๐ - ๓๙๑. http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=161              สารบัญมิลินทปัญหา http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=0#item_161

อ่านหน้า[ต่าง] แรกอ่านหน้า[ต่าง] ที่แล้วแสดงหมายเลขหน้าอ่านหน้า[ต่าง] ถัดไปอ่านหน้า[ต่าง] สุดท้าย

บันทึก ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙ หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]