บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
อรหันตสโมหปัญหา ที่ ๘ ราชา สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีพระราชโองการถามอรรถปัญหาอื่นสืบไป ว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชาญาณ อรหา สโมโห วิคตโมโห พระอรหันต์ เจ้าประกอบด้วยโมหะ หรือมีโมหะปราศไปแล้ว พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร ธรรม- ดาว่าพระอรหันต์แล้วปราศจากโมหะ ขอถวายพระพร สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีจึงมีพระราชโองการถามว่า ภนฺเต นาคเสน ข้า แต่พระนาคเสนผู้ปรีชาญาณ พระอรหันต์เจ้าท่านต้องอาบัติบ้างหรือไม่ พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร พระ อรหันต์เจ้าท่านยังต้องอาบัติอยู่ สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการถามว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระ นาคเสนผู้ปรีชา พระอรหันต์ต้องอาบัตินั้น ต้องในวัตถุใดบ้าง พระผู้เป็นเจ้า พระนาคเสนมีเถรวาจาว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร พระอรหันต์ เจ้านั้นท่านต้องอาบัติด้วยสร้างกุฎีวัตถุ ๑ ด้วยสำคัญเวลาผิด เวลากินเข้าใจเสียว่าเป็นกาล- วัตถุ ๑ ด้วยสำคัญเหตุผิด ห้ามภัตแล้วเข้าใจว่ายังไม่ได้ห้ามวัตถุ ๑ ด้วยสำคัญสิ่งของผิด สิ่งของไม่เป็นเดนเข้าใจว่าเป็นเดนวัตถุ ๑ ขอถวายพระพร สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นกษัตริย์จึงมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระ นาคเสนผู้ปรีชาญาณ วัตถุที่พระผู้เป็นเจ้าว่านี้ เมื่อว่าโดยอาการที่ต้องอาบัติ ก็คงเป็นอัน ว่าพระอรหันต์เจ้านั้น ต้องอาบัติด้วยอาการ ๒ อย่าง คือต้องด้วยไม่เอื้อเฟื้ออย่าง ๑ ต้องด้วย ไม่รู้อย่าง ๑ โยมไม่เห็นด้วย ธรรมดาพระอรหันต์นั้นท่านจะไม่เอื้อเฟื้อฝ่าฝืนขืนกระทำทีเดียว หรือ พระผู้เป็นเจ้า พระนาคเสนจึงเถรวาจาว่า น หิ มหาราช ขอถวายพระพร พระอรหันต์เจ้าทั้ง หลายจะไม่มีความเอื้อเฟื้อฝ่าผืนต้องอาบัตินั้นหามิได้ พระเจ้ามิลินท์จึงมีพระราชโองการว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา ถ้ากระนั้นพระอรหันต์เจ้าจะต้องอาบัติด้วยเหตุใดเล่า โยมนี้สงสัยนักหนา นิมนต์พระผู้เป็นเจ้า วิสัชนายกเหตุขึ้นแสดงให้โยมเข้าใจในกาลบัดนี้ พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร ลักษณะแห่งโทษมี ๒ ประการ เป็นปัณณัตติวัชชะประการ ๑ โลกวัชชะประการ ๑ อันว่าอกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการนี้ สมเด็จพระทศพลญาณโปรดประทานพระสัทธรรมเทศนาว่าเป็นโลกวัชชะ เป็นโทษทั่วไป แก่สรรพสัตว์โลกทั้งปวง ปัณณัตติวัชชนะนั้น สมเด็จพระสัพพัญญูเข้าตรัสบัญญัติสิกขาบท แก่พระภิกษุฝ่ายเดียว ไม่เกี่ยวด้วยคฤหัสถ์ คือวิกาลโภชนสิกขาบท พระภิกษุบริโภคล่วงเวลามี โทษ ส่วนคฤหัสถ์หาโทษไม่ เว้นแต่ผู้ที่ได้มอบตัวเป็นอุบาสกอุบาสิกาสมาทานอุโบสถศีล ประการ ๑ อันว่าภูตคามคือต้นไม้ โดยที่สุดกำหนดต่ำลงมาติณชาติต้นหญ้านั้นก็ดี ท่านว่า เทวดาสิงหมด จึงบัญญัติสิกขาบทห้ามไม่ได้ภิกษุตัดต้นไม้ถากหญ้า ถ้าฆราวาสทำหาโทษมิ ได้ประการ ๑ การเล่นน้ำว่ายน้ำเล่น ก็มีโทษแก่ภิกษุเท่านั้น ส่วนคฤหัสถ์ว่ายเล่นได้ไม่มีโทษ ท่านมิได้ห้ามประการ ๑ ทั้ง ๓ ประการที่กล่าวมานี้จัดเป็นปัณณัตติวัชชะ นี่แหละลักษณะโทษมี ๒ สถานดังนี้ ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร อันว่าโลกวัชชโทษ คืออกุศลกรรมบถ ๑๐ จะได้มีในสัน- ดานแห่งพระอรหันต์หามิได้ ท่านมิได้ประพฤติล่วงเลย ส่วนปัณณัตติวัชชะ ถ้าข้อใดท่านยังไม่รู้ ท่านกประพฤติล่วง มหาราช ขอถวายพระพร พระอรหันต์จะรู้ทั่วไปทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนพระ สัพพัญญูเจ้านั้นหามิได้ เช่นชื่อและโคตรตระกูลเป็นต้นของหญิงชายทั้งหลายที่บรรดามีในพื้น ปฐพีภูมิดลนี้ ท่านก็รู้ไม่ได้ทั่วทุกคนทุกบ้านทุกช่อง ที่ท่านรู้แน่นอนโดยถ่องแท้ทั่วทุกองค์ ก็แต่ วิมุตติเท่านั้น นอกจากนั้นสุดแต่วิสัยของท่าน เป็นพระฉฬภิญญาหรือเตวิชชา หรืออุภโต- ภาควิมุตติเป็นต้น ก็รู้เฉพาะแต่ในวิสัยของตนๆ จะรู้ยิ่งขึ้นกว่าวิสัยของตนไปเป็นอันหามิได้เลย ไม่เหมือนสมเด็จพระสัพพัญญูเจ้า สมเด็จพระสัพพัญญูเจ้านั้นสารพัดที่จะรู้ทั่วไปทุกสิ่งทุกอย่าง พระอรหันต์ท่านรู้ไม่ถึง กระทำด้วยสำคัญผิดจากพุทธบัญญัติเหมือนบริโภคอาหารล่วงเวลา ฉะนี้ ขอถวายพระพร พระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสว่า สาธุ ผู้เป็นเจ้าวิสัชนานี้โยมสิ้น สงสัย โยมจะรับเอาถ้อยคำของพระผู้เป็นเจ้าไว้ในกาลบัดนี้@-อรหันตสโมปัญหา คำรบ ๘ จบเพียงนี้ @- ในระหว่างนี้ ได้ตัดออกหนึ่งปัญหา ชื่อธัมมสังคีติปริยายปัญหา โดยมีความซ้ำกับโพธิสัตตธัมมตาปัญหา ที่ ๒ ในปัญจมวรรค ทั้งสำนวนแปลก็ไม่ต่างกันด้วย เข้าใจว่าเป็นด้วยหนังสือยุ่งมาแต่ชั้นตัวบาลี เพราะบาลีก็มี เหมือนกัน ต่างกันแต่ชื่อปัญหาเนื้อความมิลินทปัญหา หน้าที่ ๓๙๒ - ๓๙๓. http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=162 สารบัญมิลินทปัญหา http://84000.org/tipitaka/milin/milin.php?i=0#item_162
บันทึก ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙ หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]