บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ |
เรื่องราวของท่านเป็นอย่างไร? แม้พระเถระนี้ก็เป็นผู้มีอธิการอันกระทำไว้แล้วในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ กระทำบุญไว้ในภพนั้นๆ บังเกิด ด้วยบุญกรรมนั้น เขาท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย บังเกิดในตระกูลแห่งคฤหบดี ในจัมปานคร ในพุทธุปบาทกาลนี้ คนทั้งหลายตั้งชื่อเขาว่า นันทกะ. ส่วนพี่ชายของเขาชื่อว่า ภรตะ ประวัติ แม้เขาทั้งสองบรรลุนิติภาวะแล้ว ฟังข่าวว่าท่านพระโสณโกฬิวิสะบวชแล้ว พูดกันว่า แม้ขึ้นชื่อว่า พระโสณะเป็นสุขุมาลชาติเห็นปานนั้นก็ยังบวช เราทั้งสองจะมัวลังเลอยู่ไย? ดังนี้ บวชแล้ว บรรดาพระเถระสองพี่น้องนั้น พระภรตเถระเจริญวิปัสสนาแล้วได้เป็นผู้มีอภิญญา ๖ ต่อกาลไม่นานนัก. ส่วนพระนันทกเถระไม่อาจจะยังวิปัสสนาให้ก้าวสูงขึ้นได้ก่อนเพราะเหตุที่กิเลสทั้งหลายมีกำลัง ได้แก่กระทำกรรมในวิปัสสนาอย่างเดียว. ลำดับนั้น พระภรตเถระรู้อาสยกิเลสของพระนันทกเถระผู้น้องชาย ประสงค์จะเป็นที่พึ่งพำนัก จึงให้พระนันทกเถระเป็นปัจฉาสมณะ (พระติดตาม) ออกจากวิหารแล้วนั่งที่ใกล้ทาง บอกวิปัสสนากถาแล้ว. ก็โดยสมัยนั้น เมื่อพวกกองเกวียนเดินทางไป วัวที่เขาเทียมเกวียนตัวหนึ่งไม่สามารถจะยกเกวียนขึ้นในที่ๆ เป็นหล่มได้ล้มลง. ลำดับนั้น นายกองเกวียนจึงปลดมันออกจากเกวียน แล้วให้หญ้าและน้ำดื่ม ให้พักเหนื่อยแล้วเทียมที่แอกอีก. ลำดับนั้น โคพักหายเหนื่อยแล้ว พอมีกำลังก็ยกเกวียนนั้นขึ้นจากที่หล่มให้ตั้งอยู่ในทางได้. ลำดับนั้น พระภรตเถระจึงแสดงโคนั้นเป็นตัวอย่างแก่พระนันทกะว่า ดูก่อนอาวุโสนันทกะ เธอเห็นการกระทำของโคนี้หรือไม่ เมื่อพระนันทกะตอบว่า เห็นขอรับ จึงกล่าวว่า เธอจงใคร่ครวญความข้อนี้ให้จงดี. พระนันทกเถระกระทำโคนั้นแหละให้เป็นอารมณ์ว่า โคนี้พักเหนื่อยแล้ว ย่อมยกของหนักออกจากที่ซึ่งเป็นหล่มได้ฉันใด แม้เราก็พึงยกตนออกจากหล่มคือสงสารฉันนั้น ดังนี้แล้ว กระทำกรรมในวิปัสสนา บรรลุพระอรหัตต่อกาลไม่นานนัก. สมดังคาถาประพันธ์ที่ท่านกล่าวไว้ในอปทานว่า๑- เมื่อก่อนเราเป็นพรานเนื้อ เราเที่ยวหาเนื้อสมันอยู่ในอรัญราวป่า ได้พบที่จงกรม เรามีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส กอบเอาทรายใส่พกมาโรยลงในที่จงกรมของพระสุคตเจ้าผู้มีสิริ. ในกัปที่ ๓๑ แต่ภัทรกัปนี้ เราได้โรยทราย (ในที่จงกรม) ด้วยกรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งทราย. เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ฯลฯ คำ ____________________________ ๑- ขุ. อ. เล่ม ๓๓/ข้อ ๗๐ ก็พระเถระครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว เมื่อจะพยากรณ์พระอรหัตผลในสำนักของพระภรตเถระผู้เป็นพี่ชายของตน ได้กล่าวคาถา ๒ คาถา ความว่า โคอาชาไนยที่ดีถึงพลาดแล้วก็ตั้งตัวได้ ได้ความสังเวช อย่างยิ่งแล้ว ไม่ย่นย่อ นำภาระต่อไปได้ฉันใด ท่านทั้ง หลายจงทรงจำข้าพเจ้าไว้ว่า เป็นอาชาไนย ผู้สมบูรณ์ ด้วยทัศนะ เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็น บุตรผู้เกิดแต่อุระแห่งพระพุทธเจ้า ดังนี้. บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ภิยฺโย ลทฺธาน สํเวคํ อทีโน วหเต ธุรํ ความว่า ได้ความสลดใจว่า การไม่นำภาระอันมาถึง (เฉพาะ) นี้ไปนั้นเป็นสิ่งไม่เหมาะสำหรับเราผู้มีกำลังและความเพียรโดยชาติเลย ดังนี้แล้วเป็นผู้ไม่ย่นย่อ คือมีใจไม่ท้อถอย ได้แก่มีจิตไม่ห่อเหี่ยว. อีกอย่างหนึ่ง ปาฐะว่า อลีโน (ก็มี). ความก็อันนั้นแหละ คือนำไป ได้แก่เข็นไปซึ่งธุระคือภาระของตนโดยยิ่ง คือยิ่งกว่าประมาณได้บ่อยๆ. บทที่เหลือมีนัยดังกล่าวไว้ในอรรถกถาแห่งรมณียวิหาริเถรคาถา หนหลังแล้วทั้งนั้น. จบอรรถกถานันทกเถรคาถา ----------------------------------------------------- .. อรรถกถา ขุททกนิกาย เถรคาถา ทุกนิบาต วรรคที่ ๓ ๗. นันทกเถรคาถา จบ. |