![]() |
|
บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
|
|
![]() |
![]() |
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบท ๑๑. ชราวรรค ๒. สิริมาวัตถุ
๑๑. ชราวรรค หมวดว่าด้วยความชรา ๑. วิสาขาสหายิกาวัตถุ เรื่องหญิงสหายของนางวิสาขา (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่หญิงประมาณ ๕๐๐ คน ดังนี้) [๑๔๖] เมื่อโลกลุกเป็นไฟ๑- อยู่เป็นนิตย์ ทำไมจึงมัวหัวเราะร่าเริงกันอยู่เล่า เธอทั้งหลายถูกความมืด๒- ปกคลุม ไฉนไม่แสวงหาดวงประทีป๓- กันเล่า๒. สิริมาวัตถุ เรื่องนางสิริมา (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่บริษัท ๔ ที่มุงดูศพนางสิริมา ดังนี้) [๑๔๗] จงดูอัตภาพที่ตกแต่งอย่างสวยงาม แต่มีกายเป็นแผล๔- มีกระดูกเป็นโครงร่าง๕- อันกระสับกระส่าย ที่มหาชนดำริหวังกันมาก๖- ซึ่งไม่มีความยั่งยืนตั้งมั่น @เชิงอรรถ : @๑ โลกลุกเป็นไฟ หมายถึงโลกสันนิวาส (โลกคือหมู่สัตว์) ถูกไฟ ๑๑ กอง คือ ราคะ โทสะ โมหะ ชาติ ชรา @มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส แผดเผาอยู่เป็นนิตย์ (ขุ.ธ.อ. ๕/๙๓) @และดู วิ.ม. (แปล) ๔/๕๔/๖๓, สํ.สฬา. (แปล) ๑๘/๒๘/๒๗-๒๘ ประกอบ @๒ ความมืด หมายถึงอวิชชา (ขุ.ธ.อ. ๕/๙๓) @๓ ดวงประทีป หมายถึงแสงสว่างคือญาณ (ขุ.ธ.อ. ๕/๙๓) @๔ มีกายเป็นแผล หมายถึงมีทวาร ๙ (ขุ.ธ.อ. ๕/๙๙) @๕ มีกระดูกเป็นโครงร่าง หมายถึงมีกระดูก ๓๐๐ ท่อนเป็นโครงร่าง (ขุ.ธ.อ. ๕/๙๙) @๖ ดูเทียบ ม.ม. (แปล) ๑๓/๓๐๒/๓๕๙, ขุ.เถร. (แปล) ๒๖/๗๖๙/๔๖๘, ๑๑๖๐/๕๓๐ {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๕ หน้า : ๗๗}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบท ๑๑. ชราวรรค ๕. ชนปทกัลยาณีรูปนันทาเถรีวัตถุ
๓. อุตตราเถรีวัตถุ เรื่องพระอุตตราเถรี (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่พระอุตตราเถรีผู้มีอายุ ๑๒๐ ปี ดังนี้) [๑๔๘] ร่างกายนี้แก่หง่อมแล้ว เป็นรังของโรค มีแต่จะทรุดโทรมลงไป ร่างกายที่เน่าเปื่อยนี้ก็จะแตกดับไป เพราะชีวิตมีความตายเป็นที่สุด๔. อธิมานิกภิกขุวัตถุ เรื่องภิกษุผู้เข้าใจว่าตนสำเร็จ (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลายที่กำลังดูซากศพในป่าช้า ดังนี้) [๑๔๙] กระดูกเหล่านี้มีสีเหมือนสีนกพิราบ ถูกเขาทิ้งไว้เกลื่อนกลาด เหมือนน้ำเต้าที่ร่วงเกลื่อนกลาดในสารทกาล๑- ความยินดีอะไรเล่าจะเกิด เพราะเห็นกระดูกเหล่านั้น๕. ชนปทกัลยาณีรูปนันทาเถรีวัตถุ เรื่องพระรูปนันทาเถรีผู้งามในรัฐ (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่พระรูปนันทาเถรีผู้สำคัญตนว่างาม ดังนี้) [๑๕๐] ร่างกายนี้ถูกสร้างให้เป็นนครแห่งกระดูก ฉาบด้วยเนื้อและเลือด เป็นที่สถิตแห่งความแก่ ความตาย ความถือตัว และความลบหลู่กัน @เชิงอรรถ : @๑ สารทกาล หมายถึงฤดูใบไม้ร่วง ฤดูสารท เทศกาลทำบุญสิ้นเดือน ๑๐ (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน @พ.ศ. ๒๕๒๕) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๕ หน้า : ๗๘}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบท ๑๑. ชราวรรค ๘. ปฐมโพธิวัตถุ
๖. มัลลิกาเทวีวัตถุ เรื่องพระนางมัลลิกาเทวี (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่พระเจ้าปเสนทิโกศลผู้เสียพระทัยเพราะ การจากไปของพระนางมัลลิกาเทวี ดังนี้) [๑๕๑] ราชรถอันวิจิตรงดงาม ยังชำรุดได้ แม้แต่ร่างกายนี้ ก็ยังเข้าถึงชราได้ แต่ธรรมของสัตบุรุษ๑- หาเข้าถึงชราไม่ สัตบุรุษกับสัตบุรุษรู้กันได้อย่างนี้๒-๗. โลลุทายิเถรวัตถุ เรื่องพระโลลุทายีเถระ (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้) [๑๕๒] คนที่มีการศึกษาน้อยนี้ ย่อมแก่ไปเปล่าเหมือนโคพลิพัท เขาเจริญแต่เนื้อหนัง ส่วนปัญญาหาเจริญไม่๓-๘. ปฐมโพธิวัตถุ เรื่องเหตุการณ์คราวแรกตรัสรู้ (พระผู้มีพระภาคทรงเปล่งอุทาน ดังนี้) [๑๕๓] เราตามหานายช่าง๔- ผู้สร้างเรือน๕- เมื่อไม่พบ๖- จึงท่องเที่ยวไปในสงสารเป็นอเนกชาติ เพราะการเกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์ @เชิงอรรถ : @๑ ธรรมของสัตบุรุษ หมายถึงโลกุตตรธรรม ๙ (มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑) (ขุ.ธ.อ. ๕/๑๑๑) @๒ ดูเทียบ สํ.ส. (แปล) ๑๕/๑๑๔/๑๓๑, ขุ.ชา. (แปล) ๒๘/๔๑๓/๑๖๖ @๓ ขุ.เถร. (แปล) ๒๖/๑๐๒๘/๕๐๘ @๔ นายช่าง ในที่นี้หมายถึงตัณหา (ขุ.ธ.อ. ๕/๑๑๖) @๕ เรือน ในที่นี้หมายถึงอัตภาพ (ขุ.ธ.อ. ๕/๑๑๖) @๖ เมื่อไม่พบ ในที่นี้หมายถึงไม่พบโพธิญาณ (ขุ.ธ.อ. ๕/๑๑๖) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๕ หน้า : ๗๙}
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบท ๑๑. ชราวรรค ๙. มหาธนเสฏฐิปุตตวัตถุ
[๑๕๔] นายช่างเอ๋ย เราพบท่านแล้ว๑- ท่านจะสร้างเรือนไม่ได้อีก ซี่โครง๒- ทุกซี่ของท่าน เราหักแล้ว ยอดเรือน๓- เราก็รื้อแล้ว จิตของเราถึงธรรมปราศจากเครื่องปรุงแต่งแล้ว เราได้บรรลุธรรมเป็นที่สิ้นตัณหาแล้ว๔-๙. มหาธนเสฏฐิปุตตวัตถุ เรื่องบุตรเศรษฐีผู้มีทรัพย์มาก (พระผู้มีพระภาคทรงปรารภบุตรเศรษฐีผู้ใช้สอยทรัพย์สมบัติจนหมด จึงตรัสพระคาถานี้แก่พระอานนท์ ดังนี้) [๑๕๕] พวกคนโง่เขลาไม่ประพฤติตนให้เป็นคนดี ในวัยหนุ่มสาวก็ไม่ได้หาทรัพย์ไว้ ย่อมซบเซา เหมือนนกกระเรียนแก่ซบเซาอยู่ที่เปือกตมไร้ปลา ฉะนั้น [๑๕๖] พวกคนโง่เขลาไม่ประพฤติตนให้เป็นคนดี ในวัยหนุ่มสาวก็ไม่ได้หาทรัพย์ไว้ ย่อมนอนรำพึงถึงความหลัง ดุจลูกธนูที่พ้นจากแล่ง ฉะนั้นชราวรรคที่ ๑๑ จบ @เชิงอรรถ : @๑ หมายถึงพบตัณหานั้นได้ด้วยความรู้แจ้งพระสัพพัญญุตญาณ (ขุ.ธ.อ. ๕/๑๑๖) @๒ ซี่โครง ในที่นี้หมายถึงกิเลสเหล่าอื่นทั้งหมด (ขุ.ธ.อ. ๕/๑๑๖) @๓ ยอดเรือน ในที่นี้หมายถึงอวิชชา (ขุ.ธ.อ. ๕/๑๑๖) @๔ พระคาถานี้จัดเป็นปฐมพุทธพจน์ (วิ.อ. ๑/๑๗) {ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๒๕ หน้า : ๘๐}
เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๒๕ หน้าที่ ๗๗-๘๐. http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=25&siri=20 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับหลวง :- http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=25&A=662&Z=691 ศึกษาอรรถกถานี้ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=21 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali_item_s.php?book=25&item=21&items=1 อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=22&A=1836 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/roman_item_s.php?book=25&item=21&items=1 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=22&A=1836 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ http://84000.org/tipitaka/read/?index_mcu25 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://84000.org/tipitaka/english/metta.lk/25i021-e1.php# https://84000.org/tipitaka/english/metta.lk/25i021-e2.php# https://accesstoinsight.org/tipitaka/kn/dhp/dhp.11.than.html https://accesstoinsight.org/tipitaka/kn/dhp/dhp.11.budd.html https://suttacentral.net/dhp146-156/en/anandajoti https://suttacentral.net/dhp146-156/en/buddharakkhita https://suttacentral.net/dhp146-156/en/sujato
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
![]() |
บันทึก ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ บันทึกล่าสุด ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]