บทนำ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก พระอภิธรรมปิฎก ค้นพระไตรปิฎก ชาดก หนังสือธรรมะ | |
เถรีคาถา โสฬสกนิบาต ว่าด้วยคาถาสุภาษิตในโสฬสกนิบาต ปุณณิกาเถรีคาถา คาถาสุภาษิตของนางปุณณิกาเถรี พระปุณณิกาเถรีกล่าวว่า [๔๖๖] เราเป็นหญิงตักน้ำ กลัวต่อภัย คืออาญาของนาย และถูกภัย คือ วาจา และโทสะของนายบีบคั้นแล้ว จึงลงตักน้ำในฤดูหนาวทุกเมื่อ ดูกร พราหมณ์ ท่านกลัวต่อใครเล่าจึงลงตักน้ำทุกเมื่อ ท่านมีตัวอันสั่นเทา เสวยทุกข์ คือความหนาวอันร้ายกาจ. พราหมณ์กล่าวว่า ดูกรนางปุณณิกาผู้เจริญ ก็เมื่อท่านรู้อยู่ว่าเราผู้ทำซึ่งกุศลกรรมอันห้ามซึ่ง บาปกรรม จะสอบถามเราทำไม ก็ผู้ใดเป็นคนแก่หรือคนหนุ่มทำบาป กรรมไว้ แม้ผู้นั้นก็ย่อมพ้นจากบาปกรรมได้ด้วยการอาบน้ำ. พระปุณณิกาเถรีกล่าวว่า ก็ใครหนอบอกความนี้แก่ท่านผู้ไม่รู้ เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็เมื่อบุคคลจะ พ้นจากบาปกรรมได้เพราะการอาบน้ำ กบ เต่า นาค จระเข้ และสัตว์ เหล่าอื่นที่เที่ยวไปในแม่น้ำ ก็จักพากันไปสู่สวรรค์แน่นอน พวกคนฆ่า เนื้อทรายเลี้ยงชีวิต คนฆ่าสุกร พวกชาวประมง พวกพรานเนื้อ พวกโจร พวกนายเพชฌฆาต และคนที่มีกรรมอันเป็นบาปเหล่าอื่น แม้คนเหล่านั้น ก็พึงพ้นจากบาปกรรมเพราะการอาบน้ำ ถ้าแม้น้ำเหล่านี้ พึงนำบาปที่ท่าน ทำไว้แล้วในกาลก่อนไปได้ไซร้ แม้น้ำเหล่านี้ก็พึงนำบุญมาให้ท่านบ้าง เพราะเหตุนั้น ท่านพึงเป็นผู้เหินห่างจากพระศาสนา ดูกรพราหมณ์ ท่านกลัวต่อบาปกรรมอันใด จึงลงอาบน้ำทุกเมื่อ ท่านอย่าได้ทำบาปกรรม อันนั้นเลย ความหนาวอย่าได้เบียดเบียนผิวของท่าน. พราหมณ์กล่าวว่า ท่านนำข้าพเจ้าผู้เดินทางผิดไปสู่อริยมรรค ดูกรนางปุณณิกาผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอถวายผ้าสาฏกสำหรับสรงน้ำนี้แก่ท่าน. พระปุณณิกาเถรีกล่าวว่า ผ้าสาฏกจงเป็นของท่านตามเดิมเถิด เราไม่ประสงค์ผ้าสาฏก ถ้าท่านกลัว ต่อทุกข์ ถ้าท่านเกลียดทุกข์ ท่านอย่าทำกรรมอันเป็นบาปทั้งในที่แจ้ง หรือในที่ลับ ก็ถ้าท่านจักทำหรือกำลังทำกรรมอันเป็นบาปไซร้ แม้ท่าน จะเหาะหนีไปในอากาศ ก็จักไม่พ้นทุกข์ได้เลย ถ้าท่านกลัวต่อทุกข์ ถ้าท่านไม่ชอบทุกข์ จงเข้าถึงพระพุทธเจ้ากับทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ ผู้คงที่เป็นสรณะ จงสมาทานศีลทั้งหลาย สรณคมน์และการสมาทานศีล ของท่าน จักเป็นไปเพื่อความพ้นจากทุกข์. พราหมณ์กล่าวว่า เมื่อก่อนเราเป็นเผ่าพันธุ์แห่งพรหม วันนี้เราได้เป็นพราหมณ์จริงๆ เรา เป็นผู้มีวิชชา ๓ สมบูรณ์ด้วยเวท มีความสวัสดี มีบาปอันล้างแล้ว.จบ โสฬสกนิบาต. ----------------------------------------------------- เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ บรรทัดที่ ๙๕๖๙-๙๖๐๘ หน้าที่ ๔๑๖-๔๑๗. http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=26&A=9569&Z=9608&pagebreak=0 http://84000.org/tipitaka/read/r.php?B=26&A=9569&pagebreak=0 ฟังเนื้อความพระไตรปิฎก : [คลิกเพื่อฟัง] อ่านเทียบพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ :- http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=26&siri=466 ศึกษาอรรถกถาได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=466 พระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/read/pali_read.php?B=26&A=9605 อ่านอรรถกถาภาษาบาลีอักษรไทย :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_th.php?B=34&A=5429 The Pali Tipitaka in Roman :- http://84000.org/tipitaka/read/roman_read.php?B=26&A=9605 The Pali Atthakatha in Roman :- http://84000.org/tipitaka/atthapali/read_rm.php?B=34&A=5429 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ http://84000.org/tipitaka/read/?index_26 อ่านเทียบฉบับแปลอังกฤษ Compare with English Translation :- https://accesstoinsight.org/ati/tipitaka/kn/thig/thig.12.01.than.html https://suttacentral.net/thig12.1/en/sujato https://suttacentral.net/thig12.1/en/thanissaro
บันทึก ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๖. บันทึก ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๙. บันทึกล่าสุด ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๐. การแสดงผลนี้อ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับหลวง. หากพบข้อผิดพลาด กรุณาแจ้งได้ที่ [email protected]